ในช่วงระยะ 5 ปีที่ผ่านมา เราจะสังเกตเห็นถึงเทรนด์เทศกาลดนตรีต่างๆ ที่ไม่ได้มาในรูปแบบคอนเสิร์ตเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่เป็นกิจกรรมที่มาพร้อมกับความพิเศษต่างๆ อาทิ โยคะ เวิร์กช็อปภาพพิมพ์ DIY เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับของตัวเอง

รูปแบบของเทศกาลที่เปลี่ยนไปนี้ เกี่ยวข้องกับความต้องการของคนรุ่นใหม่เป็นปัจจัยหลัก โดยเฉพาะกับกลุ่มคนเจนมิลเลนเนียล ที่มีค่าเท่ากับกลุ่มผู้บริโภคหลักของโลก ทำให้แบรนด์ต่างๆ ต้องออกแบบกลยุทธ์ให้สามารถครองใจคนกลุ่มนี้ได้อย่างรวดเร็ว

จากเทศกาลดนตรีทั่วไป จึงกลายเป็นกิจกรรม ที่รวบรวมเอาความหลากหลายไว้ในที่เดียว ตามความสนใจที่มีความซับซ้อนมากขึ้นไปด้วยเช่นกัน

เหล่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ แน่นอนว่า มีความต้องการทั้งรูป รส กลิ่น เสียง โดยเฉพาะภาพที่สวยงามถูกใจ กดแชร์ได้ทันที ทำให้หลายอีเว้นท์หรือเทศกาลต่างๆ เริ่มหันมานำเสนองานศิลปะเป็นไฮไลท์ เพื่อดึงดูดใจกลุ่มเป้าหมายให้เข้าร่วมงานได้มากที่สุด ตัวอย่างจาก Desert X 2017 นิทรรศการในพื้นที่เฉพาะ เปลี่ยนหุบเขาโคเชล่าในแคลิฟอร์เนีย ให้เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ ที่ศิลปินแต่ละคนจะมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงาน ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางสังคม ตั้งแต่เรื่องวัฒนธรรมของคนพื้นถิ่น ผู้อพยพ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

เทศกาล Abandon Normal Devices ที่รวมตัวเอานักออกแบบ ศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ และนักสร้างภาพยนตร์ มาสร้างประสบการณ์ร่วม ให้กับผู้เข้าชม โดยใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เทศกาลจัดที่ป่ากริซเซเดล ในประเทศอังกฤษ โดยใช้เทคโนโลยี VR เข้ามาทำให้ผู้เข้าชม สามารถมองเห็นป่าในมุมสายตาของพืชหรือสัตว์ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าถึงและเข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงผ่านเทคโนโลยี

การเกิดเทศกาลในรูปแบบนี้ เป็นไปได้จริงง่ายมากขึ้น เพราะมีแพลทฟอร์มระดมทุนหลายรูปแบบ เป็นที่มาทำให้เกิดเทศกาลขนาดเล็กจำนวนมาก โดยมีการจำเพาะเจาะจงเนื้อหาของแต่ละเทศกาลมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่มุมไหนในโลก

การมีเว็บไซต์ระดมทุนอย่าง Kick starter ก็เป็นที่มาทำให้เกิดอีเว้นท์หรือเทศกาลต่างๆ ไปกว่า 4,000 โปรเจ็กต์ ตัวอย่างเช่น เทศกาลดนตรี Samphire  มีที่มาจากการระดมทุน และทุบสถิติเป็นเทศกาลดนตรีที่ระดมทุนได้เร็วที่สุดจากเว็บไซต์ Crowd funder โดยกำหนดงบประมาณไว้ที่ 20,000 ยูโร จัดในสถานที่อย่างอุทยานเอ็กมัวร์ ที่กว้างขวางมากพอ สามารถบรรจุผู้เข้าชมได้มากกว่าพันคน

จากตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่าเทศกาลต่างๆ เกิดขึ้นได้จริง โดยอำนาจไม่ได้อยู่ที่ผู้จัดรายใหญ่อีกต่อไป

รูปแบบเทศกาลเดิมโดยส่วนมาก เกิดการรวมตัวกันของผู้คนจากวงดนตรีต่างๆ แต่กระแสเทศกาลนับจากนี้ จะเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีความเชื่อ ความศรัทธาในเรื่องเดียวกัน เป็นการเชื่อมต่อทางจิตใจที่จะกลายมาเป็นหัวใจของการจัดเทศกาลในปัจจุบัน โดยกิจกรรมนั้นต้องมองเป็นภาพรวมมากขึ้น มีกิจกรรมสำหรับกลุ่มคนที่หลากหลาย

อาทิ Daybreaker เป็นความเคลื่อนไหวด้านการเต้นที่เกิดขึ้นเป็นกระแสใน 16 ประเทศทั่วโลก โดยจะเริ่มต้นวันจากการโยคะก่อน 1 ชั่วโมง ฟิตเนส และแด๊นซ์ให้เต็มที่ 2 ชั่วโมง โดยตลอดกิจกรรมนั้นปราศจากแอลกอฮอล์อย่างสิ้นเชิง

หรือตัวอย่างจากเทศกาล Wanderlust ที่ชูจุดขายเรื่องการฟื้นฟูจิตใจ สร้างความสงบจากภายใน เทศกาลที่ทุกคนจะมารวมตัวกันเล่นโยคะด้วยกันอย่างพร้อมเพรียง

ไปจนถึงเทศกาล Spirit weavers Gathering เทศกาลที่จะเชิญชวนทุกคนมารวมฝึกทักษะพื้นฐาน ทั้งการย้อมผ้า การหมักดองอาหาร การปลูกสมุนไพร และการทอผ้า

ติดตามเรื่องราวของเทศกาลต่างๆ ที่น่าสนใจได้ที่ https://vimeo.com/147583415