บันเทิงอย่างมีสาระและสร้างสรรค์
By : Pattarakorn Vorathanuch
เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้เจอบทความที่เกี่ยวกับ เรื่องของการชมสื่อภาพยนตร์บันเทิงที่น่าสนใจบทความหนึ่ง เขากล่าวว่า “การดูภาพยนตร์แนวโรแมนติกบ่อยๆ มีผลทำให้ 4 ใน 5 ของสัญชาตญาณทางศีลธรรมของมนุษย์เรานั้น สูงขึ้น”(อ้างอิงโดยแมทธิว กริซซาร์ด (Matthew Grizzard) ผู้นำทีมวิจัยของ University at Buffalo–State University ของนิวยอร์ก)
แต่ขณะเดียวกัน นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกน ก็มีคำฝากเตือนด้วยเช่นกันว่า หนังรักโรแมนติกเหล่านี้ บางที ก็อาจเป็นสื่อที่อันตรายต่อเพศหญิง เพราะอาจส่งผลให้ผู้หญิงติดภาพลักษณ์ของผู้ชายที่แสนดี จนทำให้พวกเธอ ไร้เดียงสากับความสัมพันธ์ในโลกแห่งความเป็นจริงด้วยเช่นกัน
จากการวิจัยของทั้งสองสถาบัน ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า การชมสื่อภาพยนตร์บันเทิงนั้น มีอิทธิพลและส่งผลกระทบต่อจิตใจของมนุษย์ได้มากขนาดนั้น จริงหรือไม่?
คำตอบส่วนตัวของผม คิดว่า ก็น่าจะมีส่วนจริงอยู่มาก และไม่เพียงสร้างอิทธิพลต่อจิตใจของมนุษย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เชื่อหรือไม่ว่า สื่อภาพยนตร์บันเทิง ยังสามารถสร้างชาติได้ดีอีกด้วย อย่างกรณีศึกษาที่น่าจะยกเป็นตัวอย่างได้ดี คือ ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศญีปุ่น
ที่จริง ทั้งสองประเทศนี้ ค่อนข้างทราบถึงปัญหาภายในของประเทศตนเอง เป็นอย่างดี จึงเลือกใช้วิธีการสร้างสื่อภาพยนตร์บันเทิงเพื่อนำ หรือเพื่อยกระดับจิตใจของคนในประเทศ
เช่นประเทศเกาหลีใต้ค่อนข้างทราบถึงปัญหาเรื่องของวัฒนธรรมการเหยียดเพศ ที่เพศชายมักมองว่าเป็นเพศที่เหนือกว่าเพศหญิง และค่อนข้างนิยมใช้ความรุนแรงต่อเพศหญิง เขาจึงสร้างภาพยนตร์แนวรักโรแมนติก ดราม่า เพื่อนำและยกระดับจิตใจต่อเพศชาย ให้มีความเป็นสุภาพบุรุษมากขึ้น
หรืออีกตัวอย่างกับ ปรากฏการณ์ “แดจังกึม” ที่ทราบกันดีกว่า ไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังส่งผล ในภาพรวมทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ธุรกิจ และอาหาร ที่ทำให้ประเทศเกาหลีใต้ กลายเป็นที่รู้จักกันกว้างขวาง ในช่วงประกาศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ
ส่วนอีกหนึ่งประเทศอย่างญี่ปุ่น ก็ทราบดีถึงปัญหา เรื่องประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษในยุคอดีต ที่ค่อนข้างป่าเถือน ไร้มนุษยธรรมและกระหายสงคราม เขาจึงนิยมหันมาสร้างหนังและสื่อบันเทิง โดยเน้นให้ตัวละครนำ เป็นคนดีและมีคุณธรรมสูง
“พาวเวอร์เรนเจอร์” หนังบันเทิงแนวแอคชั่นที่วัยเด็กอย่างพวกคุ้นเคยกันดีนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่คนญี่ปุ่นต้องการปลูกฝังเรื่องคุณธรรม ให้กับเยาวชนตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อให้เขาเติบโตขึ้น เป็นคนดีมีคุณธรรมอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้ ยังไม่รวมสื่อบันเทิงในรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การ์ตูน หรือเกมส์ต่างๆ ที่ค่อนข้างมีเนื้อหาในลักษณะคล้ายคลึงกัน คือให้ตัวละครหลักมีคุณธรรมและเป็นคนดี
หรือแม้แต่ “โอชิน” ละครดังของญี่ปุ่นอีกหนึ่งเรื่อง ก็สามารถสร้างค่านิยมที่ดีให้คนในชาติญีปุ่น ทั้งในเรื่องของความซื่อสัตย์ มัธยัสถ์ และความอดทนสู่ความสำเร็จ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของคนในชาติญีปุ่นอย่างเต็มตัว
“กลับมาที่ในส่วนของสื่อ และภาพยนตร์บันเทิงในประเทศไทย”
ประเทศไทยโดยรวมนั้น ส่วนใหญ่ยังคงใช้วิธีการสร้างภาพยนตร์บันเทิงแนวสะท้อนปัญหาของประเทศ หรือสร้างตามกระแสและเรตติ้งของนายทุนเป็นหลัก ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการรูปแบบเก่าๆ ที่ผิดและล้าสมัยมากในสายตาของสื่อต่างประเทศ เพราะนอกจากจะไม่สามารถยกระดับจิตใจให้คนในชาติแล้ว กลับกัน ก็อาจสร้างค่านิยมผิด ๆ ให้กับคนประเทศอีก เพราะด้วยทฤษฏีหรือกฎแห่งแรงดึงดูดเคยได้กล่าวไว้ว่า การที่เราเสพสื่ออย่างไร เราก็เป็นอย่างนั้น ถ้ารอบตัวของเรา ถูกปลูกฝังหรือมีแต่สื่อที่เป็นค่านิยมที่ผิด ๆ ที่เป็นลบ เช่นการฟุ่มเฟือย หรือการนิยมนับถือคนรวย คนหน้าตาดี หรือแม้แต่ความเคยชินในการใช้ความรุนแรงอยู่ตลอดทุกวัน เราเองก็อาจซึมซับสิ่ง ๆ นั้นเข้าไปในตัวโดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน ก็ไม่ต่างอะไรกับคำสุภาษิตที่กล่าวว่า “คบคนพาล ก็จะพาลไปหาผิด เสพสื่อผิด ก็อาจกลายขยายผล”
ท้ายสุดมาถึงตรงนี้แล้ว ก็คงต้องขอฝากอนาคตให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ว่า ถ้ามีโอกาสได้มาทำงานด้านสื่อบันเทิง ก็ขอให้ผลิตสื่อที่ดี ที่โฟกัสในทางสร้างสรรค์ เพื่อที่จะได้มีส่วนร่วม ช่วยยกระดับจิตใจให้คนไทยในประเทศให้ดีขึ้น