Sharing Economy เศรษฐกิจยุคแบ่งปันทรัพยากร

By : Isriya Paireepairit


คำศัพท์ยอดฮิตอย่างหนึ่งของวงการไอทีปีนี้คือ Sharing Economy ครับ

Sharing Economy หมายถึงเศรษฐกิจที่คนไม่เป็นเจ้าของทรัพย์สินเอง “ทั้งหมด” และนำทรัพย์สินหรือทรัพยากรที่เหลือใช้มาแบ่งปันให้คนอื่นเช่าใช้งาน

อธิบายเป็นหลักการอาจดูยากไปหน่อย ยกตัวอย่างง่ายกว่า ตัวอย่างเช่น บ้านมีห้องนอน 3 ห้อง ใช้เอง 2 ห้อง ที่เหลืออยู่แทนที่จะปิดไว้เฉยๆ ก็เอามาให้คนอื่นเช่าดีกว่า เจ้าของบ้านได้รายรับเพิ่ม ส่วนผู้เช่าก็ประหยัดเงินแทนการไปเช่าโรงแรมราคาแพง

แนวคิดนี้ไม่ใช่ของใหม่เลย แต่มันฮิตขึ้นมาเพราะยุคของสมาร์ทโฟนและแอพมือถือ กลายเป็น “ตัวช่วย” ให้คนสามารถแบ่งปันทรัพยากรได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมากๆ

ตัวอย่างยอดฮิตของธุรกิจแนวแบ่งปันที่คนไทยน่าจะเริ่มคุ้นเคยคือ Uber แอพเรียกรถแท็กซี่แนวใหม่นั่นเอง

แนวคิดของ Uber คือให้คนขับรถลีมูซีนที่ว่างงานอยู่ ไม่มีคิวรับผู้โดยสารในระบบปกติ สามารถรับ “งานนอก” โดยว่าจ้างและนัดหมายระหว่างคนขับกับผู้โดยสารด้วยแอพมือถือ

ภายหลัง Uber ขยายแนวคิดจากแค่คนขับลีมูซีนเป็นคนทั่วไปที่อยากหาลำไพ่พิเศษด้วยการรับจ้างขับรถด้วย (ถือเป็นทรัพยากรบุคคล-รถยนต์ที่ว่างงานอยู่) แต่ก็ต้องเผชิญกับการต่อต้านของหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลด้านขนส่ง

นอกจาก Uber แล้วเรายังมีธุรกิจแบ่งปันผ่านแอพอื่นๆ อีกมาก ที่ดังมากในต่างประเทศคือ Airbnb บริการแบ่งปันห้องพัก-ห้องเช่า (เมืองไทยอาจไม่ค่อยนิยมนักเพราะคนไทยไม่ค่อยนิยมแบ่งบ้านให้เช่า) ซึ่งก็ถูกต่อต้านจากหน่วยงานภาครัฐบางแห่งของสหรัฐอเมริกาเช่นกัน เนื่องจากบริการนี้ซ้อนทับกับห้องพักระยะสั้นแบบโรงแรมที่มีมาตรฐานและการควบคุมดีกว่า

บริการอื่นๆ ในท้องตลาดยังมี DogVacay รับจ้างเลี้ยงหมาขณะไม่อยู่บ้าน, Lyft บริการรถรับจ้างแบบเดียวกับ Uber, JuskPark แบ่งปันที่จอดรถที่เช่าเอาไว้แต่อาจไม่ใช้งาน เป็นต้น

อย่างที่เขียนไปนะครับว่า การแบ่งปันทรัพยากรแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในอดีตติดข้อจำกัดทางกายภาพ การสื่อสารระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายทำได้ลำบาก พอมาถึงยุคที่แทบทุกคนมีสมาร์ทโฟนใช้งาน การสื่อสารเพื่อเชื่อมระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายทำได้ง่ายขึ้นมาก เราจึงเห็นแอพแบ่งปันลักษณะนี้เกิดขึ้นมาในแทบทุกวงการ

ข้อดีของ Sharing Economy คือเป็นการตัดตัวกลางที่คอยกินหัวคิวลงไป ผู้ซื้อและผู้ขายสมประโยชน์มากขึ้น จ่ายน้อยลง ได้ค่าตอบแทนดีกว่าอยู่ว่างๆ แต่มันก็มีข้อเสียในด้านกลับคือหน่วยงานรัฐกำกับดูแลลำบาก อาจเกิดปัญหาฉ้อโกงกันได้ง่ายขึ้น เอาผิดคนโกงได้ยากกว่าเดิม ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจ Sharing Economy ต้องหามาตรการแบบใหม่ๆ คอยป้องกันตัวเองและลูกค้ากันต่อไปครับ

 

Reviews

Wanisara Thammasawat

April 11 2016 at 16:57 PM

เป็นเนื้อหาที่ดีค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีก

Comment as:

Wanisara Thammasawat

April 11 2016 at 16:58 PM

เป็นเนื้อหาที่ดีค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีก

Comment as:

Panupong T. Rassameemekin

April 11 2016 at 17:21 PM

เหมาะสำหรับการทำการค้าในยุคปัจจุบันมากกก

Comment as:
Comment as: