ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญจากบริษัทไมโครซอฟท์ ไปร่วมงานสัมมนาประจำปีที่ซานฟรานซิสโก เมืองหลวงของวงการไอทีโลก

ไมโครซอฟท์ช่วงหลังมีอะไรน่าสนใจหลายอย่าง บริษัทกลับมาคึกคักกว่าเดิมมาก และระบบปฏิบัติการรุ่นหน้า Windows 10 ก็ดูเปิดกว้างต่อบริษัทอื่นๆ มากขึ้น จุดที่น่าจับตาคือรองรับการนำแอพจาก Android และ iOS มาใช้กับ Windows 10 ได้ด้วย

ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้นต้องรอดูช่วงกลางปีที่ Windows 10 จะออกรุ่นจริง จะหมู่หรือจ่าก็ไม่รู้ แต่ไมโครซอฟท์ตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปีจะต้องมีอุปกรณ์ Windows 10 มากกว่า 1 พันล้านเครื่องในท้องตลาด ซึ่งถือเป็นเป้าหมายยิ่งใหญ่และท้าทายมาก

ไหนๆ ไปถึงถิ่นซิลิคอนวัลเลย์ทั้งที ผมเลยถือโอกาสไปเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของบริษัทไอทีระดับโลก 4 แห่งคือ Twitter, Facebook, Apple, Google ซึ่งก็ขอขอบคุณคนไทยที่สังกัดบริษัทเหล่านี้ที่พาเข้าไปเยี่ยมชมภายในสำนักงานครับ (คนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปดูข้างในได้ ถ้าหากไม่รู้จักพนักงานอยู่ก่อน)

ขอเล่าความประทับใจแบบรวมๆ เลยนะครับ สิ่งที่ผมพบเหมือนกันในบริษัทไอทีทุกแห่งคือความกระตือรือร้นของพนักงาน

พนักงานของบริษัทเหล่านี้คือสุดยอดฝีมือด้านไอทีของโลก คนส่วนใหญ่จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำหรือมีผลงานส่วนตัวที่โดดเด่น คนเหล่านี้มารวมตัวกันทำงานให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่เพื่อมีเป้าหมายจะทำให้โลกดีขึ้น ให้ชีวิตของคนจำนวนมากพัฒนาขึ้นจากผลงานของตัวเอง

นอกจากความสามารถส่วนตัวแล้ว สิ่งที่คนเหล่านี้มีเหมือนกันคือความภูมิใจในงานที่ตัวเองทำ เนื่องจากวัฒนธรรมของบริษัทไอทีเปิดกว้างให้พนักงานไม่ยึดติดกับกรอบ สามารถตกแต่งโต๊ะทำงานได้เองตามชอบใจ เมื่อผมเดินผ่านโต๊ะของพนักงานหลายๆคนก็พบการตกแต่งโต๊ะเป็น “ตัวเลข” ว่าทำงานมาบริษัทนี้กี่ปีแล้ว สะท้อนถึงความภูมิใจของการได้ทำงานที่นี่

ปัจจัยอีกประการที่น่าเคารพนับถือคือค่านิยมง่ายๆ สบายๆ ไม่เน้นพิธีรีตองมากนัก มาทำงานกี่โมงก็ได้ ทำงานจากที่บ้านก็ได้ถ้าไม่มีประชุม เมื่อการเปิดกว้างลักษณะนี้มาพร้อมกับวัฒนธรรมการทำงานที่ทุกคนรับผิดชอบในตัวเอง ประสิทธิผลของการทำงานจึงออกมาดีมาก

สิ่งที่เราพบเห็นได้ทั่วไปจากการเดินชมสำนักงานเหล่านี้คือ เราจะเห็นพนักงานออกมานั่งคุยงานกันนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นโซฟาในร่ม เก้าอี้กลางลานระหว่างตึก หรือแม้กระทั่งบนดาดฟ้าตึก บริษัทจะจัดที่ไว้ให้นั่งคุยงานกัน และเราก็เห็นพนักงานออกมานั่งคุยงานกันจริงๆ ถือคอมพิวเตอร์และสมุดจดมานั่งประชุมกันเป็นเรื่องปกติ
ผมคิดว่าวัฒนธรรมการทำงานแบบนี้น่าเคารพนับถือมาก เพราะถ้าไม่สามารถสร้างความรับผิดชอบและสปิริตการทำงานให้ควบคู่กันไปได้ มันก็จะกลายเป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานเอาแต่เล่นหรือนั่งพักผ่อนไปซะทั้งหมด
แต่เมื่อเราสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ทุกคนเป็นคนเก่ง และทุกคนอยากทำงาน มันเลยกลายเป็นว่าบรรยากาศในการทำงานก็คึกคักตามไปด้วย และเมื่อบริษัทเปิดกว้างและเคารพในตัวพนักงานว่าเป็นผู้ใหญ่พอ สภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นต่อการทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาจึงเกิดขึ้นตามมา
วัฒนธรรมการทำงานแบบนี้ไม่ใช่ความลับอะไร แต่ผมคิดว่านี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้ซิลิคอนวัลเลย์ประสบความสำเร็จได้