Digital Wave ความเคลื่อนไหวและแรงผลักในยุคดิจิทัล

By : Kamolkarn Kosolkarn


ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยแรงขับเคลื่อนจากเทคโนโลยี เหล่าผู้คนน้อมรับเอาความล้ำสมัยของดิจิทัลไปพร้อมๆ กับการเปิดรับความเป็นแอนาล็อคของเทคโนโลยีและการออกแบบ พลังของดิจิทัลได้สร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งใหม่ๆ อย่างไม่สิ้นสุด ธุรกิจต่างๆ ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง ทั้งคนเจน Z ที่กล้าออกมาเป็นนักปฏิวัติ เพื่อมุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงและผลักดันสังคมไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น สนับสนุนวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งของเชื้อชาติและเพศ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะช่วงหลังอินเทอร์เน็ต ที่ส่งผลต่อการออกแบบกราฟิก การปะทะกันของแอนาล็อคและดิจิทัลทำให้เกิดสไตล์ใหม่ที่น่าสนใจ

คนรุ่นใหม่ปลุกพลังมวลชน

กลุ่มคนเจน Z โดยเฉพาะเมื่อเกิดในช่วงหลังที่โลกผ่านเหตุการณ์สำคัญอย่าง 9/11 (เหตุวินาศกรรมตึก World Trade Center ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ.2001) หรือวิกฤติต้มยำกุ้ง ในประเทศไทย เป็นต้น การเติบโตมาพร้อมกับความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้คนเจน Z เป็นประชากรที่เปิดกว้างและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น โดย 73% เชื่อมั่นเรื่องการแต่งงานในเพศที่เท่าเทียม 74% เชื่อเรื่องสิทธิของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ และกลุ่มคนเจนนี้ยังมีความหลากหลายทางเชื้อชาติที่มากกว่า 2 จำนวนคนที่เป็นลูกครึ่งจะน้อยลง แต่เป็นลูกเสี้ยวที่ผสม 4-5 เชื้อชาติในคนเดียว

Lance Shields ผู้อำนวยการด้านประสบการณ์จากสตูดิโอออกแบบดิจิทัล iiD ได้กล่าวไว้ว่า “กลุ่มคนเจน Z นั้นต้องการสร้างความแตกต่าง และพวกเขาเชื่อว่าสามารถทำได้ พวกเขาเป็นนักยอมรับความจริง การเติบโตมาท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลกเตือนพวกเขาเสมอว่า อะไรคือสิ่งที่ผิด และอะไรที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง”

ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ที่โรงเรียนประถมในเมืองเซา เปาโล เริ่มต้นเลือกใช้ชื่อของเด็กนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือการแทนที่วันพ่อและวันแม่ ด้วย “วันครอบครัว” ในโรงเรียนอโมราและโรงเรียนนิว หรือการมีนักปฏิวัติวัยเพียง 15 ปี Ta’Kaiya Blaney เป็นนักร้องและนักกิจกรรมจากประเทศแคนาดา ที่เปิดตัวด้วยการพูดให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่องหรือนักแสดงวัย 18 ปี Amandla Stenberg เฟมินิสต์ผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิของผิวสีอย่างแข็งขันมาโดยตลอด

นอกจากนี้ เหล่านักปฏิวัติรุ่นใหม่ยังสามารถเลือกแสดงออกได้ในรูปแบบที่ต่างออกไป ในปีนี้ทำให้เราได้เห็นการประท้วงที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือ เช่น การเดินขบวนด้วยการฉายโฮโลแกรม หรือแฟลชม้อบจาก AR โดยเออาร์บราวเซอร์ที่ชื่อว่า Layar เปิดโอกาสให้ผู้ใช้แอปฯ สามารถมองเห็นคาแรกเตอร์ซูเปอร์แมน ซอมบี้ กลาดิเอเตอร์ หรือดาร์ธเวเดอร์ เดินขบวนบนถนนในเมืองอัมสเตอร์ดัม

การออกแบบแบบดิจิทัล อาร์ต

เทคโนโลยียังนำมาซึ่งการเปลี่ยนทิศทางการออกแบบสู่การเป็นศิลปะรูปแบบใหม่ หรือที่เรียกว่าศิลปะ Post-internet เป็นความเคลื่อนไหวที่ไปไกลกว่าการที่ศิลปินได้รับแรงบันดาลใจจากเว็บ สู่การสร้างผลงานในพื้นที่จริง พร่าเลือนเส้นแบ่งของความสวยงามออนไลน์และออฟไลน์ ตัวอย่างงานจากศิลปินรุ่นใหม่ เช่น Abi Freckleton ที่ใช้ลายแปรงปัดสีมาผลิตเป็นเซรามิคจริง บอกเป็นนัยบอกถึงการเชื่อมต่อกันระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์ที่ใกล้เคียงและคล้ายคลึงกัน สร้างสิ่งที่ดูเป็นดิจิทัลมากๆ ในโลกจริง หรือผลงานของ Juliette Bonneviot ก็เป็นในลักษณะเดียวกัน ด้วยการใช้สื่อผสมจากภาพสกรีนในหน้าจอจากเว็บต่างๆ มาคอลลาจรวมกัน เพื่อเชื่อมต่อความเป็นดิจิทัลเข้ากับวิธีการแบบแอนาล็อค

ความเคลื่อนไหวจากพลังของดิจิทัล ทำให้เหล่าผู้บริโภคสามารถเลือกรับสารได้อย่างเจาะจงมากขึ้น ทั้งภาพและเสียงที่ถูกคัดสรรมาเพื่อเราโดยเฉพาะ เครื่องมือต่างๆ ก็ได้รับการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์สำหรับแบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ ที่ต้องเริ่มคิดถึงวิธีการเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมาย ที่ว่าด้วยคนรุ่นใหม่ซึ่งพร้อมสร้างความเปลี่ยนแปลง กระตือรือร้นต่อสังคม การเมือง และวัฒนธรรมเป็นอนาคตที่ขับเคลื่อนผ่านสัญญาณ WIFI ที่แท้จริง

 

Reviews

Comment as: