Pop Them Up!

By : Tomorn Sookpreecha


ถ้าชวนคุณไปดูหนัง ภาพที่คุณคิดไว้ในใจเป็นอย่างไรครับ

หลายคนคงคิดว่า-ก็ต้องไปดูหนังในโรงหนังน่ะสิ เป็นโรงหนังแบบติดแอร์ อยู่ในตึก มีเก้าอี้ มีจอฉายหนังเป็นเรื่องเป็นราว

แต่คุณรู้ไหมครับว่าตอนนี้เกิดเทรนด์ใหม่ในการดูหนังขึ้นมา โดยเฉพาะหนังที่หาดูในโรงไม่ค่อยจะได้ เช่น หนังอาร์ตหรือหนังอินดี้ทั้งหลาย นั่นคือผู้คนไม่ได้ไปดูหนังในโรงกันอีกต่อไป

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด จนกระทั่งพ็อดแคสต์ของนิตยสาร Monocle ยังต้องหยิบยกมาพูดถึง ก็คือ ‘ปรากฏการณ์’ ที่เรียกว่า Open Air Cinema ในกรุงเวียนนา

ฟังดูคล้ายๆ กับหนังกลางแปลงใช่ไหมครับ จริงๆ ก็เกือบเป็นแบบนั้นเลยครับ เพียงแต่ความเก๋ของการฉายหนังแบบนี้อยู่ที่เขาจะหาผนังตึกว่างๆ สักแห่ง เช่น ผนังตึกที่จัตุรัสกลางเมือง

แล้วก็ฉายหนังลงไปบนนั้นในเวลาค่ำๆ เย็นๆ ผู้คนก็มานั่งปูเสื่อจิบไวน์ดูหนังกันไป ที่สำคัญก็คือ การฉายหนังแบบนี้จะ ‘ตระเวน’ ฉายกันไปตามที่ต่างๆ ไม่ซ้ำที่กันเลยนะครับ ใครรักใครชอบ ก็ติดตามกันไปตามจุดต่างๆ เรียกได้ว่านี่คือ Pop Up Cinema ก็ว่าได้

ที่จริงในไทยก็มีนะครับ อย่างร้านชื่อ I Hate Pigeon ในซอยงามดูพลี ก็นำหนังของ Documentary Club ไปฉายกันในร้าน ทั้งที่ในร้านไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวาง ผนังที่ใช้ฉายก็อยู่สูงขึ้นไปด้านบน คนดูต้องนั่งแหงนคอเล็กน้อย แต่คนก็ยังไปดูกันแน่นร้าน ดูไปจิบคราฟท์เบียร์ไปด้วย เป็นบรรยากาศแบบที่หาไม่ได้ในโรงหนัง

อย่างไรก็ตาม ต้องบอกคุณไว้ด้วยว่า Pop Up Trends นั้น ไม่ได้เกิดแต่กับเรื่องของการฉายหนังเท่านั้นนะครับ ทว่ายังเกิดกับธุรกิจอื่นๆ อีกมากมายหลายอย่าง อย่างเช่นร้าน My Secret Cafe ที่เชียงใหม่ ก็เคยจัด Pop Up Dinner โดยเชิญเชฟมาจากโคเปนฮาเกน มาปักเต้นท์ตั้งร้านแบบง่ายๆ ในสวน เสิร์ฟอาหารหรูหราแต่ว่าสถานที่นั้นลำลองเป็นกันเอง ปรากฏว่าคนก็แน่นเต็มอีกเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมี Pop Up Shops อีกมากมายหลายอย่าง

คำถามก็คือ-ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

Pop Up Trends นั้นเกิดขึ้นเพราะเหล่าลูกค้ายุคใหม่ยุคมิลเลนเนียลส์นั้น พูดได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้อยากจะ ‘เสพสินค้า’ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่พวกเขาต้องการ ‘เสพประสบการณ์’ ด้วย และ Pop Up Trends ก็ให้ในสิ่งที่เรียกว่า ‘ประสบการณ์’ แบบ once in a lifetime ได้ดีที่สุด อย่างเช่น ถ้าคุณดูหนังเรื่อง Cafe Society ของวูดี้ อัลเลน ในโรงหนัง คุณจะไปดูซ้ำกี่รอบก็ได้ประสบการณ์เดียวกัน แต่การดูหนังเรื่องนี้ที่ไทม์สแควร์ของนิวยอร์ค กับที่ทราฟัลการ์สแควร์ในลอนดอน ย่อมทำให้คุณได้รับ ‘ประสบการณ์’ ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งพลังของมวลชน ความสดใหม่ของสถานที่ และอะไรต่อมิอะไรอีกหลายปัจจัยที่หล่อหลอมกันขึ้นมาเป็น ‘ประสบการณ์’ ที่ไม่เหมือนใคร

ประสบการณ์ที่ว่านี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องบันเทิงเชิงวัฒนธรรมเสมอไป อย่างในเยอรมนี แบรนด์รถยนต์หรูอย่าง Mercedes ก็เข้าร่วมกับเทรนด์นี้ ด้วยการเปิด Pop Up Shops ขึ้นหลายแห่ง เป็นเหมือนโชว์รูมเคลื่อนที่ที่มอบประสบการณ์ในการทดลองขับรถยนต์ให้ลูกค้า หรือ Volvo เองก็ทำแบบเดียวกัน ด้วยการเป็น Pop Up Shop โชว์เคสรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งแน่นอนว่า Pop Up Shops เหล่านี้ต้องนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ให้ลูกค้า

เว็บไซต์อย่าง popuprepublic.com ประมาณไว้ว่า ธุรกิจ Pop Up ทั่วโลกนั้น มีมูลค่าตลาดถึงราวหนึ่งหมื่นล้านเหรียญ และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีพัฒนาการหลากหลาย ทั้งในด้านขนาดและรูปแบบ ทั้งแบบสบายๆ จนถึงแบบที่หรูหรา ทั้งแบบบ้านๆ และที่จัดโดยบริษัทใหญ่ๆ จากการสำรวจ พบว่าสิ่งที่ลูกค้ามองหาก็คือ ต้องมีบริการหรือสินค้าที่ไม่เหมือนใคร (39%), ต้องเกื้อหนุนกับท้องถิ่น (36%), ต้องมีราคาที่เหมาะสม (34%), ต้องสะดวกสบาย (33% และต้องให้ประสบการณ์ที่สนุก (30%)

จะว่าไป สังคมไทยเราน่าจะคุ้นเคยกับ Pop Up Shops กันดีไม่น้อยนะครับ เพราะเหล่าหาบเร่แผงลอยทั้งหลายก็มีบางลักษณะเข้าเกณฑ์การเป็น Pop Up Shops อยู่แล้ว เพียงเพิ่มเติม ‘ประสบการณ์’ ที่แปลกใหม่เข้าไป เชื่อว่านี่น่าจะเป็นเทรนด์ที่สร้างโอกาสใหม่ๆให้กับหลายคนได้ไม่น้อยเลย ได้ไม่น้อยเลย

 

Reviews

Comment as: