การปลูกต้นไม้สักหนึ่งต้น มันไม่ใช่เพียงแค่การเอาต้นกล้าไปปักลงบนพื้นดิน ต้นไม้ถึงจะเจริญงอกงามขึ้นมาได้นะครับ ปัจจัยแวดล้อมทุกๆ อย่างต้องดี สมดุลย์ และเอื้อประโยชน์ต่อกัน นั่นหมายความว่ามันต้องเป็นดินที่ดี มีแร่ธาตุที่ดี ได้น้ำที่ดีเป็นประจำไม่ขาดตกบกพร่อง ได้แดดที่กำลังเหมาะ อากาศก็เหมาะสม พูดง่ายๆ ก็คือระบบนิเวศมันต้องดี ต้นไม้มันถึงเจริญงอกงาม
.
นาฬิกา ก็เช่นกัน เราอาจจะเห็นเพียงหน้าปัด เข็มชั่วโมง เข็มนาที เข็มวินาที ที่หมุนเคลื่อนที่ให้เราเห็น แต่เบื้องหลังของการขับเคลื่อนนั้น ประกอบด้วยกลไกที่เรามองไม่เห็นมากมาย เฟืองเล็กเฟืองน้อยเต็มไปหมด ซึ่งหากส่วนใดส่วนนึงเกิดเสีย ก็จะส่งผลกระทบต่อความเที่ยงตรงทันที หรือแม้กระทั่งอาจเลยไปสู่ความเสียหายเลยทีเดียว การทำงานและการใช้ชีวิตก็เช่นเดียวกัน การพัฒนาตนเองที่ดี ก็อาจจะต้องเป็นการพัฒนาตนเองร่วมกับผู้อื่น หรือให้เหมาะสมกับบริบทแวดล้อมของตนเองให้ดีด้วย
.
เคยได้ยินไหมครับ ว่าคนไทยทำงานเป็นทีมไม่ค่อยเก่ง เล่นกีฬาเป็นทีมเวิร์คไม่ค่อยดี และแน่นอนการทำงานเป็นองค์กรก็มักจะประสบปัญหา เพราะเราไม่ได้คิดว่าทักษะการทำงานร่วมกับคนอื่น นั้นเป็นสิ่งสำคัญในระบบการศึกษาไทย ซึ่งผมเองก็เคยผ่านวัยนั้นมาเช่นเดียวกัน
.
จนถึงวันนี้นะครับที่ผมมีบริษัทเป็นของตนเอง ผมเองขอบอกเลยไม่ใช่คนเก่งในทุกเรื่อง ผมแค่เป็นคนที่โชคดี ที่มีคนรอบตัวเก่งๆ ร่วมงานอย่างถูกที่ ถูกเวลา มีน้องๆ ที่เก่ง และพี่ๆ ที่มหัศจรรย์ช่วยผลักดันกันในหลากหลายภารกิจได้สำเร็จลุล่วง การที่ต้องทำงานกับคนเก่งๆ จากหลากหลายวิชาชีพ สถานะ และนิสัย ตลอดจนการที่ต้องทำงานร่วมกับลูกค้า ผู้ว่าจ้าง จนไปถึงการทำงานกับผู้รับจ้าง ฟรีแลนส์ต่างๆ คิดเลยว่า การรู้จักทำงานเป็นทีมนั้นสำคัญเอามากๆ มากถึงขนาดคิดว่า ประเทศเรานั้นควรบรรจุเป็นวิชาพื้นฐานในทุกทุกระดับชั้นด้วยซ้ำไป เป็นวิชา “การทำงานเป็น team work” ดีไหมครับ
.
ทำไมน่ะหรือ ?
.
เราลองคิดดูง่ายๆ นะครับ มีบริษัทใดในโลกบ้างครับ ที่ประสบความสำเร็จเพียงคนเดียว ทำงานคนเดียว เงินลอยมาจากสิ่งที่เค้าทำอยู่คนเดียว ไม่มีลูกค้า ไม่มีซัพพลายเออร์ ไม่มีเพื่อนร่วมงาน ผมคิดว่าไม่น่าจะมีนะครับ เหงาและวังเวงน่าดู…
.
คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่นั้น ก็ล้วนแต่ต้องมีทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่นที่ดีเยี่ยมทั้งนั้น เพราะการที่ทำงานกับผู้อื่นได้ดี รู้จักบริหารจัดการปัญหาอื่นๆ ที่เกิดจากการทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม คุณจะต้องรู้จักกับความอดทน อดกลั้น การมีน้ำใจแก่ผู้อื่น การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การให้เกียรติผู้อื่น การเคารพในผู้ร่วมงาน การอ่อนน้อมถ่อมตน การบริหารเวลา และอีกหลายสิ่งอย่าง ที่คุณต้องมีไหวพริบปฏิภาณในการดึงเอาความสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นออกมาใช้ให้ได้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกจังหวะ ถูกคน ถูกใจ ได้ใจให้ได้ บอกตรงๆ ยากมากๆ ผมเองก็ยังต้องเรียนรู้จนถึงตอนนี้เช่นกัน ซึ่งดูเหมือนการทำงานเป็นทีม จะเป็นการทำให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ร่วมงานใช่มั้ยครับ แท้จริงแล้วสิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ ทั้งหมดที่คุณจะได้รับไม่ใช่เพียงแค่นั้น “ยิ่งคุณทำงานเป็นทีมเก่งเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งพัฒนาตนเองแบบก้าวกระโดดมากขึ้นเท่านั้น” ผมจึงเล็งเห็นเลยว่า ถ้าจะพูดถึงการพัฒนาตนเองด้วยกันหัดเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่ทันยุคสมัย ยุคที่ธุรกิจเล็กๆ ของบ้านคุณสามารถส่งสินค้าไปถึงลูกค้าผ่านออนไลน์ ผ่านการขนส่งและกระบวนการพิเศษต่างๆ ได้สะดวกขึ้น ยิ่งทำให้เห็นเลยครับว่า เราอาจจะต้องให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับผู้อื่นให้มากขึ้น แม้เพียงการทำงานที่เราไม่ได้เห็นหน้าค่าตากัน ได้ยินแค่เสียงจากมือถือ ได้เห็นแค่อีเมลจากคอมพิวเตอร์ ได้เห็นข้อความผ่านแอพต่างๆ ความสะดวกสบายนั้นก็ยิ่งดูจะก่อให้เกิดการเข้าใจผิด หรือการผิดพลาดอันใหญ่หลวงได้มากขึ้นเช่นกัน แล้วทำอย่างไรล่ะ ให้ความผิดพลาดในการทำงานเป็นทีมแบบ 4.0 เราเนี่ยมันร่วมสมัยด้วย การส่งต่อเนื้อหาสำคัญไม่ควรจะคลาดเคลื่อน ควรจะต้องแม่นยำให้มากที่สุด “ทักษะการทำงานเป็นทีมหรือการทำงานร่วมกับผู้อื่น” จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกธุรกิจแบบปลาไว แซงปลาใหญ่ในวันนี้ครับ ผมคงไม่มีความรู้มานั่งสอนว่า ต้องมีทฤษฏี ปัจจัย เคล็ดลับอะไรในการทำงานเป็นทีมมาบอก Search Google ลองหาดูอ่านได้เพิ่มเติมเลยถ้าอยากรู้ มีคนเขียนเรื่องนี้เป็นหลักวิชาการ งานวิจัยเยอะมาก แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอก คือ “การทำงานเป็นทีม หรือการทำงานร่วมกับผู้อื่น” เป็นทักษะภาคปฏิบัติน่ะครับ ยิ่งในยุคของการมีสังคมออนไลน์ที่เชื่อมโยงกันอย่างรวดเร็ว ด่วน(แดรก) ตอนนี้ ยุคของนักเลงคีย์บอร์ด ที่คุณจะพิมพ์ชมใคร ว่าใครก็ได้ในโลกอินเทอร์เนต คุณเองต้องหมั่นฝึกฝนการรู้จักเข้าสังคมในชีวิตจริงๆ ให้ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ (ไม่ได้หมายความว่า ไปงานสังคมเริ่ดหรูนะครับ) คุณเองยิ่งต้องรู้จักถ้อยที ถ้อยอาศัยกับผู้ร่วมงานคนอื่นให้น่าประทับใจ การที่คุณเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่ใครๆ ก็อยากร่วมงานด้วย นั้นคือภาษีทางสังคมที่ดีที่ก้าวนำใครหลายๆ คนไปแล้วหลายขุม คนเก่งๆ ก็อยากร่วมงานกับคนเก่งๆ จริงๆ ที่ทำงานด้วยง่าย ไม่ปวดหัว ไม่เรื่องมาก ไม่เหวี่ยงคนอื่นให้หัวเสีย
.
การทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นทักษะนอกจากจะเป็นการพัฒนาตนเอง ให้น่าสนใจ น่าทำงานด้วยแล้ว นี่คือเสน่ห์ของยุคนี้เลย โดยที่ไม่ต้องหล่อมาก สวยมาก มากไปกว่านั้น ทักษะการบริหารจัดการที่ได้เรียนรู้จักการทำงานเป็นทีมนี้ จะผลักดันคุณไปสู่ภาวะของการเป็น “ผู้นำ” ได้โดยธรรมชาติ หากคุณเข้าใจในศาสตร์ของการทำงานเป็นทีมเป็น คุณก็จักเข้าใจ “อำนาจ” ของการบริหารจัดการงานได้ดีเช่นเดียวกัน การเป็น “ผู้นำ” กับการมีตำแหน่งเป็น “หัวหน้า” นั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การที่คุณจะเติบโตเป็น “หัวหน้า” ที่ดี มันจะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าคุณจะมี “ภาวะความเป็นผู้นำ” ที่ลูกน้องสนับสนุน ผู้ร่วมงานรัก ติดตัวมาใน DNA คุณด้วย
.
ทักษะการทำงานเป็นทีม เริ่มต้นง่ายๆ จากการเข้าใจผู้อื่นที่ร่วมงานด้วย ไม่มีศูนย์หน้าคนไหนในทีมที่ชนะ แต่ขาดผู้ส่งบอลที่ดี กองกลางที่คล่องแคล่ว กองหลังที่เข้าขากัน และทุ่มเท ผู้รักษาประตูที่รอบคอบ จงเป็นที่รักของทุกคน ในยุคที่สังคมออนไลน์ เกลียดคุณได้ง่ายๆ ในทุกเสี้ยววินาที ในวันที่คุณอาจไม่ได้เป็น “ผู้นำ” ในวันนี้ แต่การได้เริ่มต้นเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีมีชัยไปมากกว่าที่คุณคิด หากคุณได้เข้าใจ “ศาสตร์และพลังของ Team Work!” ตั้งแต่วันนี้กันครับ….