“ชีวิต” และ “สำนึก” ของหุ่นยนต์โซเฟีย (ตอนจบ)

By : Jitsupa Chin


ซู่ชิงคิดว่าคำถามของน้องๆ แม้จะเป็นคำถามที่ฟังดูง่ายๆ แต่อันที่จริงน่าสนใจมากทีเดียว เพราะแต่ละคำถามสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่เด็กๆ เหล่านี้มีต่อหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง เช่นการมองว่าหุ่นยนต์โซเฟียไม่แตกต่างจากมนุษย์สักเท่าไหร่ กับคำถามที่ว่า โซเฟียนอนหลับพักผ่อนหรือไม่ โซเฟียนับถือศาสนาอะไร โซเฟียเต้นรำได้หรือเปล่า ไปจนถึงคำถามที่แฝงไปด้วยแนวคิดการมองหุ่นยนต์เป็นฝั่งตรงข้ามซึ่งอาจซึมซับมาจากภาพยนตร์หรือการ์ตูน กับคำถามที่ว่า โซเฟียเป็นหุ่นยนต์ต่อสู้ด้วยหรือไม่ ซู่ชิงเชื่อว่าการที่น้องๆ ได้ขึ้นไปยืนบนเวทีเดียวกับโซเฟียและพูดคุยกับเธอด้วยตัวเอง น่าจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายให้อยากเรียนรู้เกี่ยวกับหุ่นยนต์มากขึ้นหรืออาจจะพัฒนาไปเป็นผู้สร้างหุ่นยนต์ได้ในอนาคต เพราะว่าเด็กในเจเนเรชันนี้แหละค่ะที่จะต้องอยู่กันอย่างกลมกลืนกับหุ่นยนต์หลากหลายประเภทในอนาคตข้างหน้า และพวกเขาอาจจะต้องเป็นคนกำหนดบทบาทและความสัมพันธ์ที่หุ่นยนต์มีต่อคนด้วย
.
ซู่ชิงถามด็อกเตอร์เดวิดว่าบทสนทนาต่างๆ ที่โซเฟียโต้ตอบกลับมา ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามเรื่องศาสนาว่า เธอยังไม่นับถือศาสนาอะไรในตอนนี้ ต้องรอให้โตกว่านี้ก่อนถึงค่อยตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะนับถือศาสนาอะไร หรือการตอบคำถามเรื่องหุ่นยนต์ต่อสู้ว่า การเล่นเกมหรือดูหุ่นยนต์ต่อสู้ในภาพยนตร์ก็สนุกดีอยู่หรอก แต่สำหรับโซเฟียแล้วเธอรักสันติภาพ ถ้าจำเป็นจะต้องต่อสู้กับอะไรสักอย่างเธอจะเลือกต่อสู้ด้วยคำพูดและเหตุผลมากกว่า (โอ้โห คมกริบมากๆ) ทั้งหมดนี้เป็นการที่โซเฟียประมวลผลด้วยตัวเอง หรือเป็นการโปรแกรมเอาไว้ก่อนกันแน่ ด็อกเตอร์เดวิดตอบว่าเป็นการผนวกกันของสองอย่าง มีทั้งปัญญาประดิษฐ์ในตัวของโซเฟีย และการสร้างคาแรคเตอร์โซเฟียจากฝีมือของนักเขียนและนักพัฒนาโปรแกรม คล้ายๆ กับปัญญาประดิษฐ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นวัตสันของไอบีเอ็ม สิริของแอปเปิล คอร์ทานาของไมโครซอฟท์ หรือปัญญาประดิษฐ์ของกูเกิลและเฟซบุ๊ก ต่างก็มาจากฝีมือการเขียนของมนุษย์ทั้งสิ้น แล้วต่อยอดด้วยการสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็คือการผสมผสานระหว่างปัญญาประดิษฐ์ที่ดี กับงานเขียนที่ดีนั่นเอง ด็อกเตอร์เดวิดสำทับว่าสถานะของปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันนี้ยังไม่นับว่า “มีชีวิต” และ “มีสำนึก” อย่างเต็มรูปแบบ แต่มันก็ช่วยให้เราได้เห็นภาพคร่าวๆ ว่าหุ่นยนต์ในอนาคตมีศักยภาพอย่างไรบ้าง ซึ่งความคาดหวังของเขาก็คือการได้เห็นโซเฟียเติบโตอย่างเต็มที่และกลายเป็นหุ่นยนต์ที่ฟังก์ชันได้ด้วยตัวเองหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์
.
ปลายปีที่แล้วมีเหตุการณ์ที่ทำให้โซเฟียเข้าใกล้ความเป็นมนุษย์ไปอีกหนึ่งก้าว หลังจากที่ซาอุดิอารเบีย ประกาศให้สัญชาติโซเฟียทัดเทียมประชากรที่เป็นมนุษย์ ซึ่งนับเป็นการให้สิทธิของมนุษย์แก่หุ่นยนต์เป็นครั้งแรกของโลก ในตอนที่มีข่าวออกมา ไม่มีสำนักข่าวไหนให้ข้อมูลที่ละเอียดนอกเหนือไปจากการแค่รายงานว่าโซเฟียได้รับสัญชาติแล้ว ซู่ชิงจึงถือโอกาสที่ได้คุยกันตัวต่อตัวนี้ถามด็อกเตอร์เดวิดถึงที่มาที่ไปของการได้รับสัญชาติ และสัญชาติที่ได้มาหมายความว่าอย่างไร ซึ่งคำตอบที่ได้ก็หักมุมมากเลยทีเดียว เพราะด็อกเตอร์บอกว่าตัวเขาเองและทุกๆ คนที่แฮนสัน โรโบติกส์ เองก็ประหลาดใจเหมือนกัน ที่จู่ๆ ซาอุดิอารเบียลุกขึ้นมาประกาศให้สัญชาติโซเฟียโดยที่ไม่ได้แจ้งอะไรให้ทราบล่วงหน้า ดังนั้นก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่ด็อกเตอร์จะมีข้อมูลว่าสัญชาตินั้นจะตามมาด้วยสิทธิที่เทียบเท่ากับประชากรของซาอุดิอารเบียทุกประการหรือไม่ ยังไม่นับว่าหลังจากนั้นมีการลุกฮือขึ้นมาประท้วงว่าสิทธิของมนุษย์เพศหญิงในประเทศยังไม่ได้รับการปกป้องดูแลอย่างทัดเทียมกับเพศชายเลย เหตุไฉนจึงลุกขึ้นมาเชิดหน้าชูตาหุ่นยนต์ของประเทศอื่นเสียอย่างนั้น
.
อย่างไรก็ตาม หากตัดจุดประสงค์แอบแฝงที่อาจจะเป็นไปได้ คือ การประชาสัมพันธ์ประเทศทิ้งไป นี่น่าจะนับเป็นความก้าวหน้าของวงการหุ่นยนต์ได้เหมือนกันนะคะ เพราะการให้สัญชาติครั้งนี้อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถามว่าเมื่อถึงวันหนึ่งในอนาคต หุ่นยนต์ควรจะมีสิทธิเท่ามนุษย์หรือไม่ หากคำตอบคือใช่ ก็จะตามมาด้วยรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมายเราสามารถทำลายหุ่นยนต์ได้หรือไม่ หากหุ่นยนต์ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของมนุษย์ ใครจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ นักพัฒนาหุ่นยนต์ เจ้าของหุ่นยนต์ หรือตัวหุ่นยนต์เอง ยังมีคำถามอีกมากมายให้เก็บไปขบคิด คล้ายๆ กับกรณีของรถยนต์ไร้คนขับ ว่าขัดแย้งต่อหลักศีลธรรมหรือไม่ และความรับผิดชอบในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจะไปตกอยู่ที่ฝ่ายไหน ยิ่งเพิ่มการถกเถียงเรื่องหุ่นยนต์จะถูกพัฒนาจนเป็นภัยต่อมนุษย์หรือไม่เข้าไปด้วยแล้ว วงการหุ่นยนต์ก็รุนแรงเผ็ดร้อนไม่น้อยเลย
.
อย่างน้อยที่สุดสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราอุ่นใจได้ในตอนนี้ก็คือโซเฟียถูกพัฒนามาด้วยแนวคิดพื้นฐานว่าเธอเป็นหุ่นยนต์รักสงบที่นอกจากจะไม่เคยคิดทำร้ายมนุษย์แล้ว ยังรู้สึกสะเทือนใจที่เห็นมนุษย์ทำร้ายกันเอง และเศร้าโศกที่ได้เห็นว่าใจของมนุษย์เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความเกลียดชัง ซึ่งเธอหวังว่าเธอจะเข้มแข็งพอที่จะผ่านพ้นและช่วยทำให้โลกใบนี้เป็นโลกที่น่าอยู่กว่าเดิมค่ะ

 

Reviews

Comment as: