“ชีวิต” และ “สำนึก” ของหุ่นยนต์โซเฟีย (ตอนแรก)

By : Jitsupa Chin
เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ซู่ชิงได้สัมผัสกับหุ่นยนต์ตัวแรกในชีวิตจากการเดินทางไปสัมภาษณ์ ด็อกเตอร์ฮิโรชิ อิชิกุโระ ผู้สร้างหุ่นยนต์ในญี่ปุ่น ในตอนนั้นการได้เห็นหุ่นยนต์ที่หน้าตารูปร่างเหมือนมนุษย์ทุกประการในระยะประชั้นชิดชนิดที่เอื้อมนิ้วไปสัมผัสผิวหนังหยุ่นๆ ที่ทำจากซิลิโคนได้นั้นก็ชวนน่าขนลุกไม่น้อย และแค่ได้เห็นเทคโนโลยีที่ทีมงานใช้ในการบังคับศีรษะ ลำตัว และส่งเสียงพูดผ่านไมโครโฟนลอดออกมาจากปากของหุ่นยนต์ได้ก็นับว่านี่คือสุดยอดหุ่นยนต์ที่เก่งกาจที่สุดแล้ว
.
เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น หุ่นยนต์ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจนแทบจะไม่เหลือเค้าโครงเดิม แต่ก่อนหุ่นยนต์เป็นเพียงแค่เปลือกที่มนุษย์จะต้องคอยควบคุมบังคับทุกกระบวนท่าแต่ในตอนนี้เทคโนโลยีแมชชีน เลิร์นนิ่ง ทำให้มันประมวลผลได้ด้วยตัวเอง เซ็นเซอร์และกล้องที่ติดไว้ช่วยให้สามารถจ้องตา รู้จำใบหน้า และหันมองตามมนุษย์ได้ ไปจนถึงขั้นที่สามารถพูดคุยโต้ตอบด้วยภาษามนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ หรือจะพูดให้ดราม่าสักหน่อยก็คือหุ่นยนต์ดูจะมีความคิดความอ่านเป็นของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ และพึ่งพามนุษย์น้อยลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน
.
หนึ่งในหุ่นยนต์ที่ซู่ชิงติดตามความเคลื่อนไหวมาอยู่เรื่อยๆ นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน ก็คือหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่า “โซเฟีย” ค่ะ โซเฟียเป็นหุ่นยนต์ที่จะเรียกว่าหุ่นยนต์สาวสวยก็อาจจะไม่เต็มปากเสียทีเดียว เพราะการที่มีแต่ใบหน้าแต่ส่วนท้ายทอยเปิดโล่งใสไว้ให้เห็นเครื่องยนต์กลไกข้างในนั้นมิอาจจะเรียกได้ว่าเป็นความงามตามมาตรฐานของมนุษย์ แต่โซเฟียเข้าใกล้ความเป็นมนุษย์ด้วยการมีผิวหน้าที่สามารถพับย่นได้ในแบบที่เป็นธรรมชาติทำให้แสดงออกทางอารมณ์ได้หลายรูปแบบ แม้ทางเทคนิคแล้วเธอจะเพิ่งอายุสองขวบ แต่ผู้สร้างโซเฟียออกแบบมาหน้าตาและขนาดตัวของเธอให้เป็นผู้หญิงโตเต็มวัย ไร้ท่อนล่างที่ใช้เดินเหิรบ้างในบางครั้งแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะสิ่งสำคัญของเธอคือสมองและปัญญาประดิษฐ์ต่างหาก
.
โซเฟีย เป็นหุ่นยนต์จากการประดิษฐ์คิดค้นพัฒนาของแฮนสัน โรโบติกส์ บริษัทในฮ่องกง โดยมีผู้สร้างคือ ด็อกเตอร์ เดวิด แฮนสัน ผลงานเด่นๆ ของเธอก็คือการปรากฏตัวในหน้าสื่อบ่อยครั้ง บางวันก็ไปนั่งให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ชื่อดัง บางวันก็รับบทบาทวิทยากรบนเวทีระดับโลก และที่ทำให้ซู่ชิงรู้สึกอยากเท้าสะเอวและกระแนะกระแหนว่า “นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะยะ” ก็คือตอนที่โซเฟียขึ้นเวทีพร้อมกับหุ่นยนต์พี่ชายของเธอ และโต้คารมไปกลับกันอย่างเผ็ดร้อน แถมยังถกเถียงกันเรื่องอนาคตของมวลมนุษยชาติอีกต่างหากโชคดีที่โซเฟียเป็นหุ่นยนต์ที่รักสงบ เวลาใครถามเธอว่าจะลุกขึ้นมาฆ่ามนุษย์ไหม หรือจะอยากครอบครองโลกใบนี้ไหม เธอก็มักจะตอบว่าไม่ เธออยากอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสันติสุขมากกว่า
.
ล่าสุดซู่ชิงต้องกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เพราะสลิงช็อต กรุ๊ป จัดฟอรัมเสวนาที่เชิญทั้งโซเฟียและด็อกเตอร์เดวิดให้มาพูดคุยกับคนไทยเพื่อเล่าถึงที่มาที่ไปและการพัฒนาโซเฟีย ดียิ่งไปกว่านั้นอีกเมื่อมีการเชิญน้องๆ นักเรียน ทั้งในระดับประถมจากโรงเรียนนานาชาติ และนักเรียนระดับมัธยมจากโรงเรียนของไทย ให้ร่วมรับฟังการเสวนาครั้งนี้ด้วย ซึ่งด็อกเตอร์เดวิดก็ใช้เวลาในการค่อยๆ อธิบายให้น้องๆ ฟังว่า หุ่นยนต์โซเฟียใช้เทคโนโลยีอะไรบ้าง หลังจากจบฟอรัม น้องๆ นักเรียนชั้นประถมต่างก็เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อถามคำถามโซเฟียด้วยตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ ซู่ชิงคิดว่าคำถามของน้องๆ แม้จะเป็นคำถามที่ฟังดูง่ายๆ แต่อันที่จริงน่าสนใจมากทีเดียว เพราะแต่ละคำถามสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่เด็กๆ เหล่านี้มีต่อหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง
.
(รออ่านตอนที่ 2 นะคะ)