RENEWABLE ENERGY พลังงานไม่รู้จบ

By : Pattarakorn Vorathanuch


ในอดีตเมื่อหลายปีก่อน เคยมีนักวิทยาศาสตร์หลายคนได้เคยกล่าวและประมาณการณ์ไว้ล่วงหน้าว่า พลังงานต่าง ๆ ในโลกเรานั้น มีวันที่กำลังจะหมดไป และหากยิ่งมนุษย์ใช้กันอย่างไม่รู้คุณค่า ก็จะยิ่งทำให้มีวันหมดเร็วขึ้น

แต่คำกล่าวเตือนเหล่านั้น มนุษย์ในยุคก่อน ๆ อาจยังไม่เข้าใจ และยังคิดภาพกันไม่ออก บางกลุ่มคิดว่า ยังคงเป็นเรื่องไกลตัว หรือคิดว่า น่าจะอีกหลายร้อยศตวรรษ จนเมื่อในช่วงหลัง หลายปีมานี้ มนุษย์กำลังเริ่มพบกับเรื่องราวเหล่าดังกล่าว และกำลังเริ่มเข้าสู่วิกฤตการณ์ขาดแคลนพลังงานโลก เมื่อนักวิทยาศาสตร์ชาวตะวันตกหลายประเทศพบว่า พลังงานจากน้ำมันกำลังเริ่มลดน้อยลงและน่าจะหมดไปในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้านี้ เพราะด้วยอัตราประชากรที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น รวมทั้งเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เติบโตและขยายตัวซึ่งทุกกิจกรรมล้วนแต่ต้องใช้พลังงานทั้งสิ้น และจะทำอย่างไร หากพลังงานที่พวกเรากำลังใช้อยู่นั้น กำลังจะหมด หรือมีราคาที่แพงขึ้นจนไม่สามารถจะซื้อใช้ได้

นักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการหลากหลายอาชีพทั่วโลก จึงเริ่มที่จะมองหาพลังงานใหม่ หรือที่เรียกว่า
“พลังงานทดแทน” ซึ่งเป็นพลังงานหมุนเวียน ที่จะมาใช้แทนพลังงานในรูปแบบเดิมที่กำลังจะเริ่มหมดไป

พลังงาน เรื่องราวที่คนหลายคน อาจไม่รู้
ที่ผ่านมา มนุษย์โลกได้พึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล ถ่านหิน น้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละกว่า 80 % ของการใช้พลังงาน แต่ช่วงหลังพลังงานฟอสซิลเริ่มไม่ตอบโจทย์ เพราะมนุษย์ได้พบว่า ได้สร้างมลภาวะให้กับโลกอย่างมาก รวมทั้งมีอัตราราคาที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ

มนุษย์ยุคใหม่ จึงเริ่มหันไปสนใจพลังงานทดแทน ที่สะอาดและส่งผลกระทบน้อย หรือแทบไม่ส่งผลกระทบกับโลกแต่อย่างใด เพียงแต่ในช่วงแรก พลังงานทดแทนถูกใช้แค่เป็นการการทดลองเพียงเท่านั้น รวมทั้งยังคงมีราคาที่ค่อนข้างสูงมาก

ถัดมาในปัจจุบัน “พลังงานทดแทน” กลับกลายเป็นที่ต้องการ จากหลายประเทศ ที่ให้ความสนใจ คิดค้นและพัฒนามากยิ่งขึ้น จนได้กลายเป็นแหล่งพลังงานที่มีความสำคัญต่อโลก ซึ่งในขณะนี้ มีหลายประเทศที่ได้เปลี่ยนแปลง จากเดิมที่ใช้พลังงานจากฟอสซิล แต่หันมาเลือกใช้พลังงานทดแทน

ตัวอย่างเช่นประเทศนอร์เวย์ที่หันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นถึง 61% หรืออีกหนึ่งประเทศอย่างสวีเดนที่ได้เปลี่ยนแปลงมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งอยู่ที่ 47 %  นอกจากนั้น ในข้อมูลพบว่า มีกลุ่มนักลงทุนทั่วโลกได้ให้ความสนใจ และเริ่มหันที่จะมาลงทุนเรื่องของพลังงานทดแทนกันมากขึ้น

ในปี 2014 มีมูลค่าการร่วมลงทุนสูงถึง 3 แสนล้านเหรียญดอลล่าร์กันเลยทีเดียว และคาดว่าในปี ค.ศ. 2050 ทั่วโลกจะหันมาใช้พลังงานทดแทนพลังงานเดิมสูงถึงร้อย 67 % อีกด้วย

พลังงานทดแทน ทางเลือกใหม่ที่เป็นโอกาสใหม่

ประเทศที่กำลังพัฒนาในแถบอาเซียน ขณะนี้ต่างก็เริ่มมองหาโอกาสใหม่ ๆ ที่คิดอยากจะเป็นผู้ผลิตพลังงานเพื่อใช้ในประเทศตนเองหรือเพื่อใช้จำหน่ายส่งออก อย่างเช่นประเทศ สิงคโปร มาเลเซีย ฟิลิปปินส์
อินโดนีเซีย เวียดนาม และประเทศลาว แต่สำหรับประเทศไทยนั้น มีกลุ่มบริษัทหนึ่งที่ชื่อ KSL – KHON KAEN SUGAR INDUSTRY PUBLIC COMPANY LIMITED หรือที่เรียกว่าบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)ซึ่งเดิมทีเป็นกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำตาล แต่ต่อมาได้เพิ่มเติมหันมาทำธุรกิจที่เกี่ยวกับพลังงานทดแทนโดยได้ใช้แนวคิดผลิตไฟฟ้าจากใยของกากอ้อย และเอทานอลซึ่งนำไปผลิตเป็นแก๊สโซฮอลล์ โดยปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ที่มูลค่าสูงกว่าหนึ่งพันล้านบาท

หรืออีกหนึ่งกลุ่มตัวอย่าง ที่เป็นเครือข่ายการจัดการพลังงานคนไทยเพื่อชุมชน ที่ชื่อ มานะเอนเนอจี้ มานี พาวเวอร์ ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มชนชาวบ้าน ที่ผลิตพลังงานหมุนเวียนไว้ใช้กันเอง โดยที่ในอนาคตคาดว่า หากทางภาครัฐให้การสนับสนุนที่ดีนั้น บางทีประเทศไทย ก็อาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศที่สามารถผลิตพลังงานทดแทน และพลังหมุนเวียน ไว้เพื่อจำหน่ายประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างรายได้และความมั่นคงให้ประเทศไทยได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย……

https://www.youtube.com/watch?v=hTFDZ24yE0o

 

Reviews

Comment as: