ฅนเหล็ก 2029

By : Jakkrit Siririn


ผมได้ยินคำว่า AI หรือ Artificial Intelligence ที่แปลว่า ปัญญาประดิษฐ์ มาตั้งแต่ต้นพุทธทศวรรษ 2530 (ปลายคริสตทศวรรษ 1980) นับถึงวันนี้ก็เกือบ 30 ปีแล้ว

เป็น 30 ปีที่ AI มีพัฒนาการแบบก้าวกระโดด ยิ่งหากย้อนกลับไปเทียบเคียงกับภาพยนตร์เรื่อง The Terminator ที่ออกฉายในปี ค.ศ.1984 ก็ทำให้เห็นว่า เกือบ 34 ปีที่ผ่านมา (ค.ศ.1984-2017) แนวคิดหรือธีมหลักของหนังชุดฅนเหล็ก 2029 มีแนวโน้มเข้าใกล้ความจริง

เพราะทุกวันนี้ เทคโนโลยีหุ่นยนต์ ได้เข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของมวลมนุษยชาติมากขึ้นทุกที แม้ว่า นับถึงวันนี้ ที่ศูนย์วิจัยหรือองค์กรธุรกิจในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ได้พากันทยอยออกมา ประกาศความคืบหน้าผลงานจากห้องปฏิบัติการ และการนำหุ่นยนต์ออกจำหน่ายในเชิงพาณิชย์มากมายก็ตาม แต่เชื่อว่ายังมีเทคโนโลยีหุ่นยนต์อีกมากที่หน่วยงานเหล่านี้ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลออกมาสู่สาธารณชน

ล่าสุด www.techmoblog.com/facebook-shutdown-ai ได้พาดหัวข่าว Facebook ปิดระบบ AI ในศูนย์วิจัยของตัวเอง หลังพบว่ามันเริ่มคิดค้นภาษาใหม่มาสื่อสารกันเองโดยเฉพาะ

เนื้อข่าวระบุว่า มีรายงานว่า Facebook ได้ตัดสินใจปิดระบบ AI ในศูนย์วิจัย Facebook Artificial Intelligence Research (FAIR) หลังจากพบว่ามันเริ่มพัฒนาภาษาของตัวเองมาสื่อสารกันแทนภาษาอังกฤษ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับ AI “Bob” และ “Alice” ซึ่ง FAIR นำมาใช้ทดสอบและฝึกฝน “ทักษะการเจรจาต่อรอง” โดยสร้างสถานการณ์จำลองขึ้นมาให้มีของ 3 อย่าง (หนังสือ หมวก ลูกบอล) โดย Bob และ Alice ก็จะให้ค่าของสิ่งของแต่ละอย่างไม่เท่ากัน AI ทั้งสองตัวจะต้องเจรจาต่อรองกัน เพื่อให้ตัวเองได้รับสิ่งของที่มีค่ามากที่สุด ซึ่งผลที่ได้ก็อยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ เพราะทั้งคู่สามารถต่อรองได้อย่างเป็นธรรมชาติ จนมนุษย์ส่วนใหญ่ที่เคยเจรจาต่อรองกับทั้งคู่ ไม่รู้ว่าตัวเองคุยอยู่กับ AI แต่ล่าสุดก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อ Bob และ Alice เริ่มสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษแบบแปลกๆ ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ กลายเป็นประโยคที่ดูเหมือนไม่มีความหมายใดๆ แต่แท้จริงแล้วประโยคเหล่านี้สามารถถอดรหัสออกมา เป็นการสื่อสารที่มีความหมายได้ ซึ่งเข้าใจกันระหว่าง Bob และ Alice เท่านั้น

ตัวอย่างที่ Bob พูดคือ “i i can i i i everything else,”

Alice ตอบว่า “Balls have zero to me to me to me to me to me to me to me to me to,”

ขณะนี้ดูเหมือนว่าทีมวิจัยของ Facebook ยังไม่สามารถถอดความหมายของภาษานี้ได้สมบูรณ์ 100% แต่พวกเขาเชื่อว่าสิ่งที่ Bob พูด คือ “ฉันจะเอา 3 อัน ส่วนที่เหลือให้เธอหมดเลย”

สาเหตุที่ AI ทั้งสองพัฒนาภาษาของตัวเองขึ้นมาได้ คาดว่ามีสาเหตุมาจากระบบ “รางวัล” ที่ใช้กระตุ้นให้ AI พัฒนาตัวเอง โดยทุกครั้งที่ AI ต่อรองจนได้สิ่งของที่มีค่าสูงสุด ระบบก็จะมอบรางวัลให้ ส่งเสริมให้ AI คิดหาวิธีสื่อสารใหม่ๆ เพื่อให่ได้รางวัลมากที่สุด แต่เมื่อเวลาผ่านไป AI อาจมองว่า ภาษาอังกฤษที่มีคำศัพท์มากมายนั้นเยิ่นเย้อ และมีประสิทธิภาพในการสื่อสารต่ำเกินไป นอกจากนี้มันยังไม่ได้รับรางวัลใดๆ จากการใช้ภาษาอังกฤษ (แม้ว่าจะถูกโปรแกรมให้ใช้แต่ภาษาอังกฤษก็ตาม) มันจึงพัฒนาภาษาของตัวเองขึ้นมาเพื่อให้การต่อรองมีประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

อ่านข่าวของ www.techmoblog.com/facebook-shutdown-ai ข่าวนี้แล้วทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่อง A.I. ของ Steven Spielberg

A.I. (Artificial Intelligence) จักรกลอัจฉริยะ เป็นเรื่องราวการผจญภัยของหุ่นยนต์เด็กที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ ชื่อว่า David ในเมืองหุ่นยนต์ และโลกอนาคต เป็นพล็อตเรื่องที่สื่อทั้งในประเด็นความขัดแย้งในจิตใจ และทั้งการดำรงชีวิต การเอาตัวรอด ระหว่างมนุษย์และ AI

หากพิจารณาข่าวการสร้างภาษาใหม่ขึ้นเพื่อใช้สนทนากันระหว่าง AI “Bob” และ “Alice” เทียบเคียงกับภาพยนตร์ชุดฅนเหล็ก 2029 กับหนังเรื่อง A.I.

ถ้าให้เลือก ว่า AI ในโลกความเป็นจริง ผมขอเลือกบรรยากาศแบบภาพยนตร์ A.I. มากกว่า The Terminator อย่างแน่นอนครับ

 

Reviews

Comment as: