JEFF BEZOS ได้ดีเพราะ “หนังสือ” (ตอนแรก)

By : Jakkrit Siririn


ผลการสำรวจของ BLOOMBERG BILLIONAIRES INDEX ที่ออกมาเมื่อกลางเดือนมีนาคม 2018 ปรากฏชื่อของ JEFF BEZOS ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก สำหรับคนทั่วไป เมื่อเอ่ยชื่อ JEFF BEZOS ขนาดพัดลมยังส่ายหน้า แต่ถ้าพูดคำว่า AMAZON คนไทยก็อาจจะยังคิดไปถึงร้านกาแฟ แต่ถ้าเป็นคนทั่วโลก โดยเฉพาะ “คอวรรณกรรม” ต้องนึกถึงเว็บไซต์ AMAZON.COM เพราะเชื่อว่า “คนรักหนังสือ” จำนวนมากทั่วโลก รวมทั้ง “หนอนหนังสือไทย” รุ่นใหม่ จะต้องรู้จัก เว็บไซต์ AMAZON.COM
.
แม้ไม่เคยซื้อหนังสือผ่านเว็บไซต์ AMAZON.COM แต่คงต้องเคยแว้บเข้าไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือ หรืออย่างน้อยก็น่าจะเคยคลิกเข้าไปดู “ปกหนังสือ” ที่เว็บ AMAZON
.
AMAZON.COM เป็นเว็บไซต์ขายหนังสือผ่านระบบ ONLINE หรือ E-COMMERCE ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1994 ในยุคธุรกิจดอทคอมกำลังตั้งไข่…
ครบ 24 ปี หรือ 2 รอบนักษัตรพอดีสำหรับ AMAZON ใน ค.ศ.2018 ที่นิตยสาร BLOOMBERG BILLIONAIRES INDEX รายงานว่า มีความเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นกับทั้ง AMAZON.COM และทั้งกับ “วงการหนังสือโลก”
.
ผมเขียนไว้หลายวาระและหลายโอกาส ว่าโชคดีที่เกิดมาทันเห็นความเปลี่ยนแปลงของหลายสิ่งหลายอย่าง…
.
ในยุคที่เริ่มสนใจอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ในยุคที่ห้องสมุดโรงเรียนมีตำราภาษาอังกฤษหรือ TEXT BOOK ไม่มากนักหรืออาจพูดได้ว่าบางที่ไม่มีเลย และถึงจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว แม้ห้องสมุดมหาวิทยาลัยจะมี TEXT BOOK มากมาย แต่ก็แทบไม่มีโอกาสได้จับ TEXT BOOK เลย เพราะผมเรียนทั้งปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญเอก ภาคนอกเวลา พอมาถึงมหาวิทยาลัย ห้องสมุดก็ปิดหมดแล้ว…
.
ในยุคนั้น พวกเราต้องขวนขวายสั่งซื้อหนังสือหนังหาตำรับตำราภาษาอังกฤษหรือ TEXT BOOK กันเอาเองครับ…
.
ร้านหนังสือภาษาอังกฤษซึ่งพอจะเป็นที่พึ่งได้ก็เห็นจะเป็นแผนกหนังสือนำเข้าของห้างเซ็นทรัล ตอนนั้น ASIA BOOKS ยังไม่เกิด ส่วน KINOKUNIYA ยิ่งไม่ต้องพูดถึง…
.
แม้จะมีหนังสือนอกที่ปริมาณมากมายและหลากหลายแนวทาง แต่แผนกหนังสือของเซ็นทรัลก็มีหนังสือเรียนไม่มาก ทำให้คนรุ่นผมได้ลิ้มรสชาติการสั่งซื้อ TEXT BOOK กับสำนักพิมพ์ต่างประเทศโดยตรง ใช้ช่องทางติดต่อทางไปรษณีย์ เดินไปโอนเงินที่ธนาคาร และรอหนังสือมาส่งทางเรือ…
.
แน่นอน…มันเป็นการรอคอยที่ยาวนาน…
.
เมื่ออินเทอร์เน็ตถือกำเนิดขึ้นบนโลก ความต้องการหนังสือเรียนภาษาอังกฤษของพวกเราก็ดูเหมือนจะลดน้อยถอยลงเพราะจบการศึกษากันแล้ว ความจำเป็นที่ต้องสั่งซื้อหนังสือทางเรือก็สิ้นสุด
.
แต่แม้จะมีอินเทอร์เน็ต มี E-COMMERCE และอาจมีบางเวลาและบางอารมณ์ที่อยากอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ การสั่งซื้อหนังสือผ่านทางระบบออนไลน์ ก็ยังเป็นเรื่องยุ่งยากไม่แพ้การสั่งซื้อทางไปรษณีย์…
.
ดังนั้น การเกิดขึ้นของ AMAZON.COM ในปี 1994 จึงเป็นอะไรที่แจ่มจันทร์มาก…
.
แม้โมเดลขายหนังสือของ AMAZON จะยังไม่สะดวกใจเทียบเท่าการมาถึงของ E-BOOK ในทุกวันนี้ เพราะรักแท้ย่อมแพ้ระยะทางและเงื่อนเวลาส่งของก็ต่างกันลิบลับ
.
แต่คนรุ่นหลงกลิ่นหมึกรักกลิ่นกระดาษอย่างผม อย่างไรเสียก็ต้องการหยิบๆ จับๆ ลูบๆ คลำๆ หนังสือเล่มมากกว่าการอ่านหนังสือหน้าจออยู่แล้วครับ…
.
ตามแนวคิดนี้ จึงทำให้ธุรกิจของ AMAZON.COM ทะยานไปไกลอย่างยื้อไม่หยุดฉุดไม่อยู่…
.
AMAZON เองก็ดูเหมือนจะรู้ตัว ว่าวันหนึ่งข้างหน้า เมื่อคนเปลี่ยนยุค คนรุ่นรักกลิ่นหมึกพิมพ์ค่อยๆ หมดไปจากโลก ถึงวันนั้น ก็จะเป็นช่วงเวลาทองของ E-BOOK อย่างเต็มตัว…
.
AMAZON จึงสร้าง KINDLE หรือ “หนังสือไฟฟ้า” ขึ้นมารองรับแนวโน้มใหม่ของคนอ่านหนังสือรุ่นถัดไป ที่แม้จะยังไม่ใช่ธุรกิจหลัก และยังทำยอดขายถล่มทลายสู้หนังสือกระดาษไม่ได้ แต่ AMAZON ก็เริ่มเล็งเห็นศักยภาพของ “หนังสือไฟฟ้า” มากขึ้นเรื่อยๆ
.
รายงาน “วงการหนังสือโลก” ใต้เงายักษ์ AMAZON ของ BLOOMBERG BILLIONAIRES INDEX เขียนเอาไว้ทำนองว่า แม้ AMAZON จะตั้งความหวังไว้กับ KINDLE ค่อนข้างมาก แต่มันก็ยังเป็นเรื่องของอนาคต
.
เพราะในปัจจุบัน ดูเหมือนว่า AMAZON จะยังสนุกสนานกับขายหนังสือผ่านระบบออนไลน์มากกว่า…

 

Reviews

Comment as: