ถ้าจะพูดถึงสินค้าที่เป็นแบรนด์เนม หลายคนที่ไม่เคยใช้ ก็อาจไม่เคยทราบว่า ทำไมสินค้าแบรนด์เนมเหล่านั้นถึงมีราคาและมูลค่าที่ค่อนข้างสูง แต่สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ได้เคยใช้ และมีครอบครองอยู่แล้ว ก็จะไม่แปลกใจ เพราะคงทราบถึงรายละเอียดและคุณค่าของผลิตภัณฑ์นั้นๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่า ชุดความคิด และกระบวนการผลิตแบบเดิมๆ ที่เคยมองว่ามีคุณค่าเหล่านั้นกำลังจะหมดไป เพราะเทรนด์ใหม่ของโลกที่เกิดขึ้น และโดยเฉพาะในส่วนของแบรนด์เนมที่รู้จักกันดีนี้ ก็อาจจะสร้างมูลค่าให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยแนวคิดที่ริเริ่มมาจากการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือที่เรียกว่า “Green is new Luxury ความหรูหราใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”

ก่อนจะกล่าวถึงเทรนด์ใหม่รักษ์โลก ต้องขอย้อนความหลัง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกันเสียก่อนว่า เดิมที เทรนด์เรื่องการรักษ์โลกในอดีตมีมานานพอสมควรแล้ว แต่สินค้าหรือผลิตภัณฑ์รักษ์โลกในอดีต ยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับเท่าไหร่ แถมยังเคยโดนบางกลุ่มมองแบบเหยียดหยามด้วยวลีว่า “Ugly green” เสียด้วยซ้ำ หนำซ้ำบางกลุ่มก็มองว่าเป็นสินค้าที่ออกแบบมาสำหรับกลุ่มคนที่รักโลกแบบสุดโต่ง โดยไม่คำถึงเหตุผล เพราะสินค้ารักษ์โลกในอดีต มีราคาค่อนข้างสูง  แต่ไม่ค่อยมีคุณภาพดีนัก ตรงกันข้ามกับสินค้าเทรนด์รักษ์โลก ในปัจจุบัน ซึ่งได้มีการพัฒนากระบวนการผลิตใหม่ มีการออกแบบใหม่ ให้มีคุณภาพที่ดีกว่า หรือเทียบเท่า และราคาถูกลงมากกว่าแต่ก่อน

หลายคนสงสัยว่า เทรนด์สินค้ารักษ์โลกที่เห็นกันมากมายในร้านค้าต่างๆ นั้น มียอดขาย หรือขายได้ดีหรือไม่? คำตอบนี้ ก็ได้รับการยืนยันจากตัวแทนผู้ผลิตและผู้จำหน่าย เช่น คุณท๊อป พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร ผู้ก่อตั้ง Ecoshop Common ซึ่งกล่าวยืนยันว่า ยอดขายดีมาก แม้ว่าขณะนี้ ประเทศไทย อาจจะยังไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของเทรนด์รักษ์โลกเทียบเท่าเมืองนอก แต่ยอดขายก็ยังสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะสินค้าประเภทนี้มีลูกค้าต่างชาติให้ความสนใจและตอบรับเป็นอย่างดี

ส่วนอีกหนึ่งคำถามที่ว่า ทำไมสินค้าเทรนด์รักษ์โลกถึงมีราคาสูงกว่าสินค้าปกติ? คำตอบนี้น่าจะมาจากกระบวนการผลิต หรือวิธีการผลิตเป็นประเด็นสำคัญ เพราะการนำเศษวัสดุเหลือใช้กลับมาสร้างใหม่ให้ดีกว่าเดิมนั้น ค่อนข้างมีรายละเอียดที่ซับซ้อนและยากกว่า มีต้นทุนสูงกว่า แต่หากนำมาเปรียบเทียบกับประโยชน์ที่จะมีส่วนร่วมในการรักษาโลกนั้น ย่อมดีกว่า และสร้างคุณค่าทางจิตใจได้มากกว่า เช่นเดียวกับตัวอย่างสินค้าแบรนด์เนมยุคปัจจุบัน ที่หลายหลายแบรนด์ดังต่างให้ความสนใจที่จะผลิตและออกแบบสินค้าที่เป็นนวัตกรรมสร้างสรรค์ และเพิ่มคุณค่า เช่น แบรนด์ดังอย่าง ไนกี้ ก็มีการผลิตสินค้าประเภทเสื้อฟุตบอลที่มาจากขวดน้ำ  หรืออีเกีย บริษัทผลิตอุตสหกรรมเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ ก็มีโปรเจคแนวร่วม โดยได้ตั้งเป้าว่า จะปลูกต้นไม้ทดแทนต้นไม้เดิม ที่ใช้ไปทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2020 หรือแม้แต่แบรนด์ไฮเอ็นอย่าง Gucci กับการผลิตกระเป๋าที่ไม่ทำลายชีวิตสัตว์และสิ่งแวดล้อม รวมแบรนด์อื่นๆ อีกมากมายที่ต่างก็ตื่นตัวกับกระแสโลกของเทรนด์นี้

ในส่วนของประเทศของไทย  บริษัทที่เข้าร่วมกับเทรนด์รักษ์โลก ก็มีอยู่มากมายหลากหลายบริษัทเช่นกัน หนึ่งในบริษัทที่น่าสนใจนั้น ได้แก่ บริษัท Sonite innovative Surfaces ที่ได้เข้าร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Starbuck ซึ่งผลิตจานรองแก้วกาแฟของสตาร์บัค โดยสร้างสรรค์วัสดุมาจากกากกาแฟ และนอกจากนี้ยังสามารถผลิตกระเบื้อง ซิงค์ และวัสดุอื่นๆ โดยการนำวัสดุเหลือใช้กลับมารีไซเคิลใหม่

ในอนาคตคาดว่า เทรนด์รักษ์โลก น่าจะยังคงอยู่อีกยาวนาน และอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการผลิตสินค้าอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ น่าจะช่วยอนุรักษ์โลกให้คงมีทรัพยากรเหลือใช้ได้เพิ่มอีก Green is the new black….

https://www.youtube.com/watch?v=xjeYGbZlJvw