จับไดโนเสาร์ตัวสุดท้ายไปขึ้นหิ้ง

By : Pongsak Sanitwongse


ความมั่นใจตัวเองจนเกินไป เป็นบ่อเกิดแห่งความผิดพลาด เมื่อผู้นำเสพติดความสำเร็จในอดีต ไม่มองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วในโลกปัจจุบัน ย่อมล้มได้ภายในพริบตา ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้นำด้านธุรกิจ สถานศึกษา หรือแม้แต่เป็นผู้นำประเทศ ถ้ายังหลงชื่นชมวิถีแห่งความสำเร็จเดิมๆ การบริหารงานแบบเดิมๆ ไม่เปิดมุมมองใหม่รับฟัง ย่อมนำความฉิบหายและล่มจมสู่ตัวเองและองค์กรอย่างแน่ๆ

Harmful Beliefs ความเชื่อแห่งหายนะ มีมากยิ่งเจ็บมาก ตัวอย่างมีให้เห็นมากมายเหลือคณานับ การเข้ามาของอเมซอนเมื่อหลายปีก่อน ทำให้ร้านบุ๊คสโตร์ล้มไม่เป็นท่า บริษัทจัดจำหน่ายเพลง ค่ายเพลงเจอศึกหนักของการดาว์นโหลดเพลงบน iTunes และระบบฟังเพลงแบบออนไลน์ที่มีอยู่มากมายหลายรูปแบบ ชนิดอยากฟังเดี๋ยวนี้ต้องได้ฟัง ความเชื่อเดิมๆคือ การฟังเพลงต้องซื้อแผ่นซีดีเท่านั้น การได้สะสมและชื่นชมปกซีดี คือวิถีที่ดีของการฟังเพลงเท่านั้น กล้องดิจิตอลเข้ามาแทนที่ระบบการถ่ายรูปที่ใช้ฟิลม์แบบดั้งเดิม ความคิดเดิมๆ การถ่ายรูปต้องใช้ฟิลม์เท่านั้นจีงจะให้ภาพสวย คมชัดลึก ได้สัมผัสกับรูปภาพที่มีมิติลึกซึ้งในอารมณ์ศิลป์ ยังไม่รวมธุรกิจการบิน การท่องเที่ยว และการศึกษา ที่ล้วนแล้วแต่เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจไปหมดแล้ว
มีบริษัทเกินกว่าครึ่งของธุรกิจที่กล่าวมาข้างต้น ต้องปิดกิจการหรือลดขนาด แม้แต่หันไปทำธุรกิจอย่างอื่นโดยสิ้นเชิง พวกที่ยอมรับได้ทีหลังก็พอที่จะกู้วิกฤติศรัทธากลับมาได้ แต่ก็ต้องใช้เวลานาน แต่ธุรกิจบางประเภทที่ผู้นำมี Harmful Beliefs เยอะๆ หรือที่เรียกว่ามีความเชื่อแห่งหายนะ ยิ่งมีมากๆก็เหมือนกับเลี้ยงไดโนเสาร์ไว้ในองค์กร ไม่ยอมปล่อยมันไปสักที แล้วองค์กรเราหล่ะเลี้ยงไว้กี่ตัว

การจะจับไดโนเสาร์ขึ้นหิ้ง ไม่ใช่โยนความสำเร็จในอดีตทิ้งไป เก็บความเก่งที่ผ่านมาไว้เป็นบทเรียน พัฒนาระบบใหม่ที่ยอดเยี่ยมกว่ามาแทนที่ ที่สำคัญอย่าอยู่ตัวคนเดียวบนโลกกว้างใบนี้ พันธมิตรใหม่อาจสร้างนวัตกรรมใหม่ขึ้นมาก็ได้

ผมมีหลักการบางอย่างที่จะก้าวข้ามเจ้าไดโนเสาร์มาฝาก เริ่มจากตัวผู้นำต้องกลับไปเข้าโรงเรียนใหม่อีกครั้ง ที่เขาเรียกว่า training your boss นั้นถูกต้องที่สุด เทคโนโลยีเปลี่ยนไปแล้ว ธุรกิจก็เช่นกัน ระบบดิจิตอลกับการทำธุรกิจในยุค Gen Me คุณเข้าใจมันมากแค่ไหน ไปเรียนรู้เถอะ เข้าอบรมสัมนาบ่อยๆ อย่างน้อยได้ up-date ตัวเอง ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้เจอผู้คนจากหลากหลายประเภทธุรกิจก็คุ้มมากแล้ว ต่อมาต้องทำ Business changed การเปลี่ยนแบบมีนัยยะสำคัญ ต้องเริ่มคิดนวัตกรรมใหม่และเปลี่ยนจุดขายใหม่ ที่คุณคือเจ้าแรกเพียงผู้เดียวที่ทำได้ เป็นผู้นำตลาดและเป็นผู้นำทางความคิดในตลาดที่คุณแข่งขันอยู่ สุดท้ายการส่งต่อความคิดอันเป็นเลิศสู่คนอีกรุ่นนึง หรือที่เรียกง่ายว่าทีมทำงาน ส่งไม้ต่อให้ไปปฎิบัติให้เกิดเป็นจริงให้ได้ แล้วก็ฝึกให้เขาเป็นผู้คิดเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ด้วยตัวเขาเอง เพื่อที่จะได้ส่งต่อแนวความคิดนี้ไปสู่คนรุ่นใหม่ๆเช่นเดียวกัน

เห็นมั้ยว่าเราไม่จำเป็นต้องฆ่าไดโนเสาร์ตัวนั้นทิ้ง เพียงแค่หยุดความเชื่อแห่งหายนะ (Harmful Beliefs) แล้วเริ่มค้นหาแนวทางใหม่ๆ ก็เหมือนที่เราจับเจ้าตัวไดโนเสาร์ไว้บนหิ้ง ถ้าองค์กรเรามีไดโนเสาร์อยู่บนหิ้งมากมายก็ยิ่งดี นั่นหมายถึงองค์กรเราก้าวล้ำนำหน้าผู้อื่นหลายช่วงตัว

 

Reviews

Anuwut kongubol

April 11 2016 at 16:38 PM

เนื้อหาดีน่าสนใจมากครับ

Panupong T. Rassameemekin

April 11 2016 at 16:58 PM

training my boss !!

Panupong T. Rassameemekin

April 11 2016 at 17:02 PM

training my boss !!

Comment as:
Comment as: