เมื่อโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุค Mobile Web เจ้าของเว็บปรับตัวแล้วหรือยัง ?

By : Isriya Paireepairit


“ข่าวที่น่าสนใจของวงการไอที ที่คนไม่ค่อยพูดถึงกันเท่าไรนัก”  แต่สำหรับผมคิดว่า มีความสำคัญค่อนข้างมาก นั่นคือข่าวกูเกิลกำลังจะปรับระบบดัชนีค้นหาของตัวเองให้เป็น Mobile-First

ก่อนอื่น  ต้องขออธิบายย้อนความกันสักเล็กน้อย  เกี่ยวกับวิธีการ ทำงานของระบบค้นหา Google Search ที่เราต่างคุ้นเคยกันดี โดยวิธีการนี้  เริ่มจากกูเกิลจะมี “หุ่นยนต์” หรือที่เรียกกันว่า “บ็อต” วิ่งไปเก็บข้อมูลเว็บเพจต่างๆ จากทั่วโลกอินเทอร์เน็ต จากนั้น จะนำมาประมวลผลและจัดลำดับความสำคัญเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ ของกูเกิลเอง

เมื่อกลุ่มผู้ใช้งาน ได้พิมพ์ข้อความค้นหาลงไปนั้น กูเกิลจะนำข้อมูล ที่เก็บไว้มาจัดลำดับแล้วส่งหน้า “ผลการค้นหา” กลับคืนสู่ผู้ใช้งาน

ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา กลุ่มคนทำงานทั่วโลก ใช้งานเว็บไซต์ผ่านคอมพิวเตอร์เป็นหลัก ระบบ “บ็อต”  ของกูเกิล จึงเลียนแบบการทำงาน ของเว็บเบราว์เซอร์ อ่านข้อมูลเว็บเพจ ซึ่งทำงานเสมือนเป็นมนุษย์ แล้วนำหน้าเว็บเพจนั้น ไปเก็บข้อมูลไว้

แต่ในรอบ 7 – 8 ปีให้หลัง สมาร์ทโฟน กำลังเริ่มสร้างจุดเปลี่ยนสำคัญ ซึ่งปัจจุบัน สมาร์ทโฟนได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลทำให้สัดส่วนการใช้งานเว็บผ่านสมาร์ทโฟน เพิ่มขึ้นตามลำดับเช่นกัน แต่ถึงอย่างไร สมาร์ทโฟนยังมีข้อจำกัด เรื่องของพื้นที่แสดงผล ที่บนหน้าจอสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตนั้น  จะมีหน้าจอขนาดเล็กกว่าจอคอมพิวเตอร์แบบเดิม   รูปแบบจอของสมาร์ท์โฟนและแท็บเล็ตก็มักออกแบบเป็นหน้าจอแนวตั้ง   ซึ่งต่างจากจอคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบเป็นแนวนอน ดังนั้นเว็บไซต์หลายแห่งจึงต้องปรับตัว และแยกหน้าเว็บเพจเวอร์ชั่นพิเศษสำหรับอุปกรณ์พกพา (Mobile Web) ออกมาจากหน้าเว็บเพจเวอร์ชั่นสำหรับจอคอมพิวเตอร์

ปกติแล้ว เราอาจคุ้นเคยกับการเข้าเว็บด้วยมือถือ แล้วเห็น URL  แสดงที่อยู่ของเว็บที่ขึ้นต้นคำว่า  m  หรือ  mobile แทนคำว่า www (world wind web)  โดยลักษณะนี้ขยายความคือ เรากำลังเห็นเว็บเพจในเวอร์ชั่นอุปกรณ์พกพา ซึ่งเป็นผลจาก การเปลี่ยนแปลงโดยลักษณะที่กล่าวมา ทำให้เว็บเพจต่างๆ จำนวนไม่น้อย  ต้องเพิ่มเติมการสร้างรูปแบบใหม่

ปัจจุบันมีการแบ่งออกเป็น 2 เวอร์ชั่น ตามประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้งาน เนื้อหาของทั้ง 2 เวอร์ชั่นก็อาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงที่มาจากผลพ่วงของสมาร์ทโฟนส่งผลให้สัดส่วนการใช้งานเว็บ ผ่านอุปกรณ์พกพาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลายคนรอบตัวเราบางคน  อาจไม่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้านเลย แต่เขาสามารถเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือแทบจะ 100%

จากข้อมูลล่าสุดของบริษัท StatCounter ที่คอยเก็บสถิติของเว็บไซต์ทั่วโลก ได้ระบุไว้ว่าในเดือนพฤศจิกายน 2016 จะเป็นครั้งแรก ที่สัดส่วนคนเข้าเว็บ จากสมาร์ทโฟน แซงหน้าคนเข้าเว็บจากคอมพิวเตอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้  ถ้าให้กล่าว ก็คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของวงการเว็บทั่วโลก

และในขณะเดียวกันนี้  กูเกิล  หนึ่งในฐานะผู้ให้บริการค้นหาข้อมูลบนเว็บรายใหญ่ของโลกก็มีประกาศว่าจะให้ความสำคัญกับ Mobile Web มากกว่าเว็บสำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป หรือที่เรียกกันว่า Mobile First   ทั้งหมดจะมีผล ในกรณีที่เว็บไซต์ของเราแยก 2 เวอร์ชั่นชัดเจน “บ็อต” กูเกิล ก็จะเลือกอ่านเว็บเวอร์ชั่นอุปกรณ์พกพาแทนเว็บเวอร์ชั่นของคอมพิวเตอร์  เพื่อสะท้อนความต้องการของผู้ใช้งาน “ส่วนใหญ่” ที่น่าจะเข้าเว็บผ่านอุปกรณ์พกพาเป็นหลัก

แต่ในกรณีที่เว็บไซต์ของเรามีเว็บเพจ เป็นเวอร์ชั่นเดียว   และสามารถใช้งานได้ทั้งอุปกรณ์พกพาและคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกกันว่า การออกแบบเว็บแบบ  Responsive   คือตอบสนองอุปกรณ์ได้ทุกแบบ ซึ่งถ้าได้เว็บเพจในลักษณะอย่างนี้ ก็คงไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มเติม เนื่องจาก  ได้รองรับอุปกรณ์พกพาอยู่แล้ว

แต่ท้ายสุดอย่างไรก็ดี ในช่วงหลังที่ กูเกิล ให้น้ำหนักกับเว็บที่รองรับอุปกรณ์พกพามากขึ้น ถ้าเว็บไซต์ของเรามีสถานะเป็น Mobile-Friendly ใช้งานกับอุปกรณ์พกพาได้ดี อ่านง่าย ข้อความไม่ล้นจอ กูเกิลก็จะให้คะแนนพิเศษและให้ลำดับผลการค้นหาของเราดีขึ้นด้วย ดังนั้น  ผลการสรุป ณ ช่วงเวลานี้   ผมคิดว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่เจ้าของเว็บไซต์ทุกราย ไม่ว่าจะเป็นเว็บส่วนบุคคลหรือเว็บองค์กร    ต้องปรับปรุงเว็บไซต์ของตัวเอง  ให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆเหล่านี้  โดยเฉพาะ การเข้าชมเว็บจากอุปกรณ์พกพา   ไม่เว้นแม้แต่ปัญหาที่ผมเห็น จากเวปไซด์บางองค์กร ที่ทำด้วยโปรแกรม Flash ซึ่งเป็นเทคโนโลยี ที่ล้าสมัย และไม่สามารถเปิดได้บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ซึ่งปัญหานี้ แนะนำว่าคงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากลงทุนปรับปรุงเว็บใหม่ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ก่อนที่จะสายเกินแก้ ที่อาจส่งผลให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจมหาศาล  ด้วยเหตุเพราะว่าลูกค้าไม่สามารถเข้าไปอ่านเว็บไซต์ของท่านได้ จากสมาร์ทโฟนของเขานั่นเองครับ

 

Reviews

Comment as: