ถึงยุครถยนต์ไร้คนขับแล้วหรือยัง

By : Isriya Paireepairit


เทคโนโลยีอีกหนึ่งแขนงที่ได้รับความสนใจมากในรอบปีที่ผ่านมาคือ “รถยนต์ไร้คนขับ” หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Self-driving car (บ้างก็เรียก Autonomous car)

มีบริษัทเทคโนโลยีหลายราย ทั้งจากฝั่งไอทีและฝั่งรถยนต์ หันมาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนี้กันอย่างจริงจัง แนวคิดของรถยนต์ไร้คนขับคือใช้กล้องและเซ็นเซอร์หลายประเภท จับภาพและข้อมูลรอบตัวรถอยู่ตลอดเวลา แล้วนำข้อมูลนั้นมาประมวลผลเป็นโมเดล 3 มิติให้รถยนต์รับทราบว่าข้างหน้ามีอะไร รอบตัวมีอะไรบ้าง จากนั้นเขียนโปรแกรมให้รถยนต์เรียนรู้จากสภาพแวดล้อมแล้วขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้

บริษัทที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักคือ กูเกิล และ เทสลา ซึ่งทั้งสองบริษัทก็มีแนวคิดและมุมมองต่อเทคโนโลยีนี้ที่แตกต่างกันไป

ฝั่งของกูเกิล เรามักเห็นรถต้นแบบของกูเกิลที่หน้าตากลมๆ น่ารัก นั่งได้แค่ 2 คน ภายในรถมีแต่เก้าอี้นั่งเท่านั้น ไม่มีพวงมาลัยหรืออุปกรณ์ควบคุมรถยนต์อยู่เลย

แนวคิดของกูเกิลคือรถยนต์ไร้คนขับต้องทำงานได้สมบูรณ์ 100% มนุษย์มีหน้าที่นั่งอย่างเดียวเท่านั้น ที่ผ่านมากูเกิลทดสอบรถยนต์บนถนนจริงไปแล้วกว่า 1.5 ล้านไมล์ทั่วสหรัฐอเมริกา ส่วนใหญ่ทำงานได้ดีไม่มีปัญหา ยังไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรง แต่ก็มีอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ในกรณีแปลกๆ ที่รถยนต์ไม่รู้จักอยู่บ้าง

ส่วนกรณีของเทสลานั้นกลับแนวคิดกัน เทสลาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเกรดพรีเมียม ราคาแพง ขับแล้วโก้หรู แนวคิดของเทสลาคือยังให้มนุษย์เป็นผู้ควบคุมรถยนต์อยู่ แต่มีปุ่มพิเศษ Autopilot ที่ทำให้รถยนต์ขับเองได้ถ้าต้องการ และเจ้าของรถยนต์สามารถ “กดเรียก” รถยนต์จากที่บ้านให้ขับไปรับตัวเองตามพิกัดที่กำหนดผ่านสมาร์ทโฟนได้

อย่างไรก็ตาม รถยนต์ของเทสลาเพิ่งประสบอุบัติเหตุใหญ่ถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต เหตุเพราะระบบอัตโนมัติของเทสลา ไม่สามารถแยกรถบรรทุกสีขาวที่ขับอยู่ด้านหน้า กับท้องฟ้าที่ค่อนข้างสีสว่างได้ ทำให้รถยนต์เข้าใจว่าด้านหน้าไม่มีอะไรขวางกั้น และไม่เบรกตัวเองเมื่อเข้าใกล้รถบรรทุก จนส่งผลให้คนขับเสียชีวิต

อุบัติเหตุของเทสลา เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่ารถยนต์ไร้คนขับยังต้องพัฒนาต่อไป ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ควบคุมรถยนต์ต้องมีความฉลาดกว่านี้ เรียนรู้เคสแปลกๆ ให้มากขึ้น ซึ่งก็คงต้องทดสอบกันต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ปัญหาสำคัญของรถยนต์ไร้คนขับ ไม่ได้มีแค่เรื่องทางเทคนิคเท่านั้น แต่เป็นเรื่องทางกฎหมายและการยอมรับจากสังคมด้วย ซึ่งช่วงหลังกลุ่มผู้ประกอบการฝั่งรถยนต์ก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนเพื่อผลักดันแนวคิดนี้ให้เป็นจริงมากขึ้น และหน่วยงานภาครัฐในหลายประเทศทั่วโลก ก็เริ่มเปิดกว้างยอมรับให้ทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบนถนนจริงมากขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม กว่าที่รถยนต์ไร้คนขับจะแพร่หลาย และกฎหมายถูกแก้ไขเพื่อเปิดให้ใช้งานจริง คงต้องใช้เวลาอีกนาน

 

Reviews

Comment as: