ถ่ายภาพ ทักษะง่ายๆ ของการทบทวนตัวคุณเอง

By : Anon Pairot


ในโลกปัจจุบันที่ทุกอย่างถูกเล่าเรื่องจาก Visual ภาพถ่าย ภาพวิดีโอ ในวันนี้การใช้ภาพกลายเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารที่สำคัญเอามากๆ เราอยู่ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยโซเชียลเน็ตเวิร์ค Facebook Instagram การแชท การแชร์ การคอมเม้นทุกวินาทีในทุกๆ วัน
.
ภาพถ่ายและสื่อ Visual ต่างๆ กลายเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์ใช้สื่อสาร เชี่ยมต่อความรู้สึกและความหมายต่างๆ ต่อกัน จนใครไม่ใช้ภาพในการเล่นเรื่องต่างๆ นอกจากจะน่าเบื่อ ไม่น่าตื่นเต้น ก็ดูเหมือนจะทำให้เรื่องๆ นั้นที่อาจจะดีมากๆ ดูตกยุคตกสมัยไปเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในหลากหลายธุรกิจวันนี้ไปถึงอนาคต ก็ยิ่งต้องใช้ภาพมาสื่อสารลูกค้า ในการประชาสัมพันธ์และสื่อสารการตลาดอย่างมากมาย
.
แม้กระทั่งตัวผมเองในฐานะผู้เสพสื่อในแต่ละวันก็เคยชินกับความสะดวก ความตื่นเต้น ความสนุกบันเทิง และติดกับดักความสวยงามนั้นๆ จนกลายเป็น standard การบริโภค contents วันนี้ไปแล้ว
.
ทำไมภาพถึงมีพลังการสื่อสารมากในวันนี้น่ะหรือ?
.
ก็เพราะภาพ ทำให้คนจดจำได้ง่าย เร็ว และอาจจะกินใจผู้รับสารมากกว่าตัวหนังสือและคำบอกเล่าไงล่ะ เราอยากจะอธิบายว่าก๋วยเตี๋ยวเปรี้ยวมีรสชาติยังไง รถวิ่งเร็วแค่ไหน กาแฟยามเช้ามันหอมกรุ่นมากแค่ไหน การใช้ภาพดีๆ สักรูปช่วยให้คนที่เห็นภาพรู้สึกได้เร็วและเข้าถึงบรรยากาศกว่าเขียนเป็นตัวอักษรเยอะเลย (ถ้าผมหาภาพอะไรมาเล่าเรื่องที่เขียนอยู่ได้ในตอนนี้ คงไม่ต้องมาเขียนเล่าบทความนี้แล้วเนี่ยสินะ ! แต่ยังคิดไม่ออก จึงต้องมานั่งเขียนเล่าอยู่นี่ไงล่ะ)
.
จริงๆ ผมเองก็ไม่ใช่คนถ่ายภาพเก่งหรือโดดเด่นอะไร แค่พอใช้กล้องถ่ายภาพเป็นแบบพื้นฐาน แต่หลายๆ ครั้ง ผมค้นพบไอเดียดีๆ จากการนั่ง รื้อค้นภาพเก่าๆ มาทบทวนว่าตอนนั้นเห็นอะไร เจออะไรมาบ้าง ซึ่งภาพหลายๆ ภาพนั้น ก็ไม่ใช่ภาพที่สวยงามตระการตาวิจิตรศิลป์อะไรเลย บ่อยครั้งที่ ภาพธรรมดาออกจะไปทางซื่อบื้อด้วยซ้ำ มักทำให้ผมเกิด ความคิด และแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่ผมเองหลงลืมไป หรือกำลังตื่นเต้นในเวลานั้นได้มากมายเลย ผมจึงมักใช้กล้องถ่ายภาพในมือถือนี้แหละ สแนปเอาสิ่งต่างๆ ที่ผมสนใจเก็บไว้ ทั้งจากการท่องเที่ยว เดินทางไปดูงาน การอ่านหนังสือ ดูทีวี อ่านข่าว บางครั้งก็ตอนรถติด ตอนไปเตะบอลกับเพื่อน ตอนกินข้าว ตอนเพิ่งตื่น หรือแม้กระทั่งตอนเข้าห้องน้ำด้วยซ้ำไป รูปบางรูป ผมเองก็ถ่ายเก็บไว้เพื่อ ไว้เตือนตัวเองว่า “เฮ้ย… นี่ไอเดียดีอย่าลืมนะโว้ย” หรือหลายครั้ง ก็เอาไว้เตือนตัวเองว่า “อย่าไปทำพลาดแบบนี้อีก”
.
ถ้าถามผมว่า “ในยุคนี้เด็กๆ หรือคนรุ่นใหม่ ควรลองหัดพัฒนาทักษะอะไรเพื่อให้ค้นพบตนเอง หรือค้นพบโอกาสต่างๆ ที่คนอื่นอาจไม่เห็น?”
.
ผมเองก็อยากจะแนะนำให้ใครหลายคนที่อาจจะไม่ถนัดการถ่ายภาพ ไม่ถนัดการใช้กล้อง ให้ลองมาใช้กล้องถ่ายรูปกันดู ไม่ได้หมายความว่า ให้ไปซื้อตำราหัดถ่ายภาพมาอ่านเพื่อใช้กล้องให้เป็นมืออาชีพขนาดนั้นนะ ที่ผมอยากจะบอกคือ ลองหัดการใช้กล้องถ่ายภาพเป็นเครื่องมือของการบันทึกความคิด และมุมมองของคุณ เผื่อคุณจะได้รู้ตัวเองว่า แต่ละวันคุณได้พลาดโอกาสอะไรดีๆ ที่คุณเห็นในแต่ละวันไปมากแค่ไหนต่างหาก หากคุณมีลูก มีคุณปู่ที่บ้าน ลองให้เขาถ่ายรูปต่างๆ ในแต่ละวันดูสิ รูปที่ถ่ายออกมา อาจจะบอกถึงสิ่งที่เขาสนใจ สิ่งที่เขาอยากรู้ สิ่งที่เขารู้สึกได้อย่างดีผ่านภาพถ่ายที่เขาถ่ายมานั่นล่ะ
.
เพราะอะไรหรือ การถ่ายภาพถึงน่าสนใจ?
.
จริงแล้วการถ่ายภาพในทุกวันนี้ ก็แสนจะสะดวกสบาย ใช้งานง่ายขึ้น ประหยัดกว่ายุคกล้องถ่ายภาพฟิล์มหลายเท่าตัว และใครๆ ก็คงมีกล้องในมือถือ หรือกล้องพกพาส่วนตัวไว้ใช้เล่นๆ อยู่บ้างแล้ว Technology กล้องต่างๆ ก็ทำให้ พกพาง่าย ตัวเล็กลง ราคาถูกลง โดยที่มีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ กล้องจึงเป็นเครื่องมือที่เราควรทำความรู้จักให้มากขึ้นในวันนี้ ผมคงไม่ได้มาสาธยายให้ผู้อ่านตอนนี้มาลุกขึ้นเป็นช่างภาพมืออาชีพกันหมด แค่อยากจะบอกว่าการถ่ายภาพให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด คุณจะมีมุมมองที่เปลี่ยนไปหลังการอ่านบทความนี้ก็เป็นได้
.
สิ่งที่คุณจะได้หลังจากการถ่ายภาพ มีสิ่งเหล่านี้บ้างไหมครับ??
.
1. การถ่ายภาพในมุมมองของผมก็คือ การจับใจความในประเด็นสำคัญ โดยที่คุณอาจจะอธิบายความคิดตอนนั้น ออกมาเป็นภาษาพูดไม่ได้ การที่คุณยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพอะไรซักอย่าง นั่นหมายความว่าคุณกำลังจะบันทึกความรู้สึก ความคิดเห็น ไอเดียดีๆ หรือเนื้อหาบางอย่างที่คุณสนใจในเสี้ยววินาทีนั้นอยู่ ไม่เชื่อคุณลองกลับไปเปิดดูภาพเก่าๆ ที่คุณเป็นคนถ่ายเอง คุณจะค้นพบความรู้สึกนั้นในขณะถ่ายภาพว่า คิดอะไรอยู่ว่ะ เห็นอะไรอยู่จากภาพเก่าๆ ในมือของคุณ อะไรที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว ไม่แน่นะ คุณอาจจะเจอกับโอกาสดีๆ ที่คุณบันทึกไว้ตอนนั้นก็ได้
.
2. การถ่ายภาพช่วยคุณจำอะไรได้มากขึ้นหลายอย่าง สมองน่ะ จำทุกอย่างไม่ไหวนะ อย่าคิดว่าคุณจะสามารถมานั่งจด นั่งจำความรู้สึกหรือความคิดตอนนั้นได้หมดนะ สมองมันบันทึกไม่ไหว คุณควรถ่ายสิ่งที่คุณสนใจทุกครั้งที่คุณมีความคิดดีๆ หรือข้อคิดดีๆ ใช้กล้องเก็บความรู้สึกนั้นไว้ มันช่วยให้คุณได้ทบทวนสิ่งที่คุณอยากบันทึกไว้ได้ดีเอามากๆ
.
3. การถ่ายภาพ มันคือการย่อโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่คุณมองโลก ผ่านช่องสี่เหลี่ยมที่ปรากฏอยู่ในเฟรมให้อยู่กับเรา ทุกการกดชัตเตอร์นั้น หมายความว่า คุณกำลังจะบันทึกสาระสำคัญที่สนใจเก็บไว้ มันเป็นการจัดระเบียบสาระสำคัญในชีวิตที่ดีและสะดวกอย่างหนึ่ง ซึ่งถ้าคุณทำมันได้ดี มันไม่ใช่แค่ภาพถ่ายเท่านั้น แต่มันคือมุมมองที่คุณเห็นอะไรบางอย่างที่สำคัญต่อชีวิต หรือมุมมองที่คุณเห็นต่างไปจากคนอื่นๆ ในแต่ละวันเชียวนะ
.
4. การถ่ายภาพ คือการหัดมองโลกในแง่บวก มันคือโลกจำลองที่คุณอยากจะเก็บไว้ โลกที่คุณเห็นมีหน้าตาเป็นอย่างไร สินค้าที่เหมือนกัน ทำเลค้าขายที่เหมือนกัน ทำไมคนแต่ละคนจึงคิด มองเห็นคุณค่าในสิ่งเดียวกัน ได้ออกมาแตกต่างกันล่ะ น่าสนใจนะครับ
.
5. การถ่ายภาพก็คือ การหัดตั้งคำถามในสิ่งที่คุณเห็นตรงหน้าว่า มันมีความหมายอะไรซ่อนอยู่ แล้วทำไมคุณถึงสนใจ แล้วคุณอยากจะบันทึกรูปนี้ไปทำไม เชื่อสิว่า รูปเก่าๆ ของคุณ มันจะมีรูปที่งงๆ ปนอยู่ บางครั้งเรามักจะลืมไปแล้วว่า เราถ่ายภาพนี้ไปทำไม บางที มันไม่ได้ต้องการอธิบายอะไรหรอก เราถ่ายมันเพราะเราสงสัย หรือมีสิ่งผิดปกติ หรือมีสิ่งที่เราแปลกใจ ก็ขอถ่ายเก็บไว้ดู ก็เท่านั้น
.
สรุปง่ายๆ ก็คือกล้องถ่ายภาพนี่แหละ เป็นอาจารย์ที่ดีในการตรวจสอบตัวเองด้วยนะ
1. ช่วยจับใจความในเรื่องต่างๆ ได้ดีขึ้น
2. ช่วยจดจำเรื่องต่างๆ ได้มากขึ้น
3. ช่วยย่อใจความให้มันกระทัดรัดขึ้น
4. ช่วยให้มองโลกในแง่บวกมากขึ้น
5. ช่วยให้ตั้งคำถามและสงสัยในสิ่งต่างๆ มากขึ้น
.
จริงๆ ก็คงมีอะไรมากกว่านี้แหละ เราถึงหลงรักในการถ่ายภาพ คุณก็ไม่ต้องซีเรียสถึงขนาดจะใช้กล้องทำมาหากินหรอกนะ แค่ฉุกคิดหลังจากอ่านบทความนี้ได้ว่า คุณอาจจะได้เรียนรู้เรื่องต่างๆ ผ่านมุมมองของรูปถ่ายของคุณได้นะ และนั่นก็อาจจะเป็นกุญแจสำคัญ ให้คุณได้เจอประตูของโอกาสอะไรบางอย่างที่เป็นคำตอบในใจแต่อธิบายไม่ได้ ก็เป็นได้
.
กล้องถ่ายภาพนี่แหละ จะเป็นเพื่อนแท้ของคุณพี่คอยตักเตือนเรา ถามตัวเองดูว่า คิดอะไรอยู่ มองหาอะไรอยู่ รู้สึกอะไรอยู่ คงไม่มีใครจริงใจ เข้าใจคุณ ได้เท่าตัวคุณเองอีกแล้ว
.
ถ้าคุณอยากพัฒนาตัวเองเพื่อค้นพบตัวเองแบบง่ายๆ ผมขอแนะนำว่า ลองมีวินัยกับการถ่ายภาพดูสิ คุณจะค้นพบว่าตัวเองมีความคิดดีๆ มากมาย คุณอาจจะเป็นคนหนึ่งที่เห็นโอกาสอะไรบางอย่างที่คนอื่นอาจมองไม่เห็นก็เป็นได้ แถมเป็นการเรียนรู้ตลอดเวลา ที่ประหยัดอย่างหนึ่งด้วยครับ
.
ลองหยิบกล้องมาถ่ายภาพ วันละรูปกันดูครับ…

 

Reviews

Comment as: