กลลวงของสมอง (ตอนที่ 2)

By : Anusorn Tipayanon


Joshua Foerเริ่มต้นการฝึกฝนความจำ ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า การสร้างมหาวิหารแห่งความทรงจำหรือ Memory Palace

เทคนิคที่ว่านี้เขาเรียนรู้จาก Ed Cooke นักฝึกฝนความจำที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งในยุคนี้ Ed เล่าให้เขาฟังว่า ความทรงจำที่เขาจะเริ่มฝึกฝนนั้นหาได้เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับโลกปัจจุบันไม่ เช่นเดียวกับภาษา สายตา และอีกหลายสิ่งที่มนุษย์ปัจจุบันใช้อยู่ยามนี้ การเกิดขึ้นของความทรงจำมนุษย์แต่แรกเริ่มนั้นมีที่มาที่ไปที่แตกต่างจากความทรงจำที่เราใช้ในปัจุบันมากมายนัก

ความทรงจำในระบบสมองนั้นเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เริ่มพัฒนาขึ้นในมนุษย์เมื่อหนึ่งล้านแปดแสนปีก่อนหรือในยุคหินใหม่ (Pleistocene) ก่อนจะหยุดการพัฒนาเมื่อราวหนึ่งหมื่นปีที่แล้ว

ยุคสมัยนั้น มนุษย์ยังชีพด้วยการล่าสัตว์และเก็บพืชผักเป็นอาหารปัจจัยในการเลี้ยงชีวิตในยุคนั้นมนุษย์ไม่จำเป็นต้องจดจำเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่หรือหลักสูตรการศึกษา สิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ความจำคือตรงไหนที่มีแหล่งอาหาร เส้นทางไหนที่จะนำพวกเขากลับสู่ที่พักได้ พืชชนิดใดกินได้ และพืชชนิดใดกินไม่ได้

เช่นเดียวกับน้ำตาลและไขมันที่เป็นสิ่งจำเป็นในอดีตแต่ปัจุบันการบริโภคมันมากเกินไปกลับเป็นโทษมากกว่า เราจำเป็นต้องหาหนทางเปลี่ยนความจำที่มีวิวัฒนาการแบบหนึ่งมารับใช้ความจำที่จำเป็นในอีกรูปแบบชีวิตที่ต่างออกไป และสิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคช่วย

ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องสร้างสิ่งที่เรียกว่าการฝึกฝนขึ้น

การฝึกฝนที่สำคัญคือหาทางเปลี่ยนความทรงจำที่เบื่อหน่ายให้กลายเป็นสิ่งที่ตื่นเต้นเหมาะสมกับความจดจำ วิธีที่ง่ายที่สุดคือใช้สถานที่ที่เราคุ้นเคยและวางสิ่งที่เราต้องการจดจำไว้ในสถานที่แห่งนั้น

เทคนิคที่ว่านี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ มันถูกเขียนขึ้นเป็นหนังสือโดยผู้แต่งนิรนามภายใต้ชื่อหนังสือว่า Rhetotica ad Herennium ในช่วงหนึ่งร้อยปีก่อนคริสตกาล

เทคนิคที่ว่านี้นักปราชญ์คนสำคัญในเวลาต่อมาไม่ว่าจะเป็น ซิเซโร่ หรือนักบุญ โทมัส อไควนัส นักเรียนปรัชญา หรือนักวรรณกรรมที่จำเป็นจะต้องใช้ความจำจะได้รับการสอนเทคนิคนี้  พวกเขาจะไม่ถูกสอนว่าควรจำอะไรแต่จะถูกสอนว่าจะจำมันได้อย่างไร

หนังสือ ad Herennium แบ่งความจำมนุษย์เป็นสองแบบ แบบแรกคือความจำตามธรรมชาติ หรือ Natural Memory อีกแบบคือความจำที่เราสร้างขึ้นหรือ Artificial Memory

อธิบายง่ายๆ ก็คือ ความจำแบบแรก คือ ฮาร์ดดิสค์ที่มีติดตัวมาแต่เกิด ในขณะที่ความจำแบบที่สองเปรียบเสมือนโปรแกรมซอฟท์แวร์ที่เราใส่เข้าไปภายหลัง  หรือความจำที่เราสร้างขึ้นซึ่งประกอบด้วยสิ่งที่เรียกว่า ภาพและสถานที่ ภาพคือเนื้อหาของสิ่งที่เราต้องการจำ ส่วนสถานที่คือตำแหน่งที่เราใช้เก็บภาพเหล่านั้นไว้ให้เลือกออกมาดูได้อย่างง่ายดาย

ด้วยเหตุนี้การฝึกฝนความจำที่ง่ายที่สุดคือการเลือกสถานที่ที่เราคุ้นเคยอาจเป็นบ้านหรือสถานที่ที่เราไปเยือนแล้วมีความชอบฝังใจ หรือสถานที่ที่เราจินตนาการขึ้นโดยไม่มีอยู่จริงก็ย่อมได้

หลังจากนั้นในมุมพื้นที่ ให้เราจัดวางภาพต่างๆ ลงไป และเมื่อพื้นที่นั้นเต็มเราสามารถขยายมันเพิ่มขึ้นได้อีก จนในที่สุดพื้นที่นั้นอาจกลายสภาพเป็นมหาวิหารและข้างในนั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่เราต้องการจำ บางคนอาจใช้วิหารแบบนี้เพียงวิหารเดียว และบางคนอาจมีวิหารเป็นร้อยๆ แล้วแต่ชนิดของความทรงจำนั้น

Joshua Foer เริ่มต้นการถูกทดสอบให้นึกภาพบ้านของเขาในวัยเยาว์ กิจกรรมที่เขาต้องทำคือไม่ต้องจดสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันลงบนกระดาษหรือสิ่งอื่นแต่ให้ใช้ความจำแทน เขาถูกสั่งให้วางความจำแรกลงบนตู้ไปรษณีย์หน้าบ้านหรือไม่ก็ที่ธรณีประตู หลังจากนั้นให้วางสิ่งที่ต้องการจำเป็นอันแรกเช่นอาหารที่ต้องซื้อเพื่อรับประทาน นึกภาพของมันให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่ทำได้ หลับตาลงนึกภาพมันปรากฏอยู่ในพื้นที่ที่สร้างขึ้น

การสร้างรายละเอียดจะทำให้เราจดจำสิ่งนั้นได้ดีขึ้น หากคุณต้องซื้ออาหารเฉพาะให้นึกถึงกลิ่นของอาหารนั้นในความจำของคุณให้จงได้

ตอนนี้เรามาถึงขั้นตอนของการสร้างรายละเอียดแล้ว ถัดจากนั้นคือขั้นตอนของการสร้างความสนุกสนานให้กับความทรงจำ

 

Reviews

Comment as: